สภาองค์กรนายจ้างฯ เผยทิศทางครึ่งปีหลังอัตราการว่างงานของไทยจะเริ่มดีขึ้น หลังจากครึ่งปีแรกยังลดต่อเนื่อง เหตุส่งออกผงกหัว อัตรากำลังการผลิตเริ่มกลับมาเข้าที่เข้าทาง
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์กรนายจ้างผู้ประกอบการค้าอุตสาหกรรมไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มการจ้างงานครึ่งปีหลังภาพรวมจะปรับตัวดีขึ้นจากครึ่งปีแรกที่อัตราการว่างงานสูงขึ้น เนื่องจากครึ่งปีหลังแนวโน้มการส่งออกที่มีทิศทางจะเติบโตตลอดปีได้ไม่น้อยกว่า 5-6% เช่นเดียวกับการเติบโตของการท่องเที่ยว จึงเป็นกลไกสำคัญที่จะรักษาอัตราการจ้างแรงงานไว้หรือการจ้างเพิ่มขึ้นได้
“การจ้างเพิ่มขึ้นก็คงมีบ้าง แต่คงไม่ได้มากนัก เพราะภาคการผลิตเพื่อการส่งออกแม้จะเติบโต แต่อัตรากำลังการผลิตก็ขยับขึ้นมาอยู่ในระดับกว่า 61% ซึ่งยังเป็นอัตรากำลังผลิตที่ยังคงเหลืออยู่ ทำให้การจะจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มมากมายเช่นอดีต รวมไปถึงค่าล่วงเวลา (โออี) ที่จะมีก็คงจะยังไม่ง่ายนัก” นายธนิตกล่าว
ทั้งนี้ จากตัวเลขสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า ในเดือน ก.ค.มีอัตราการว่างงานอยู่ที่ 4.76 แสนคน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกของปีนี้ (ม.ค.-มี.ค. 60) 1.2% การว่างงานอยู่ที่ 4.63 แสนคน บ่งชี้ว่ามีการว่างงานเพิ่มขึ้น แต่หากเทียบกับช่วง ก.ค. 59 ก็พบว่า การว่างงานเพิ่มขึ้น 8.5 หมื่นคน หรือเพิ่มขึ้น 21.74% และในจำนวนการว่างงานดังกล่าว พบว่าเป็นผู้ที่เคยมีงานทำแล้วออกจากงานประมาณ 1.84 แสนคน คิดเป็นประมาณ 38.6% ของการว่างงานทั้งหมด
“เราพบว่าในจำนวนคนตกงาน 1.84 แสนคนนั้น เป็นการว่างงานในภาคบริการประมาณ 50% และภาคการผลิต 40% ส่วนที่เหลือเป็นภาคการเกษตร โดยเข้าใจว่า เกิดจากการส่งออกที่ลดลงต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมาต่อเนื่องจนถึงต้นปีนี้ ทำให้หลายธุรกิจต้องปิดกิจการลงในส่วนของขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ซึ่งการจ้างงานในภาคส่งออกครึ่งปีหลังก็น่าจะกระเตื้องขึ้นมาบ้าง ส่วนภาคการผลิตที่เน้นในประเทศอาจจะยังไม่ดีนักเพราะแรงซื้อคนไทยยังคงซึมอยู่ คงต้องลุ้นภาคเกษตรปลายปีนี้เป็นแรงหนุน ดังนั้น การจ้างงานอาจไม่โตนักแต่อย่างน้อยก็จะไม่ลดลง” นายธนิตกล่าว