สภาองค์การนายจ้างคาดเด็กนักศึกษาจบใหม่ช่วง มี.ค.-เม.ย.นี้อีกราว 5.5 แสนคนเสี่ยงที่จะทำให้ตัวเลขการว่างงานของไทยเพิ่มขึ้นอีก จากเดือน ม.ค. 60 การว่างงานพุ่ง 1.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างการค้าและอุตสาหกรรมไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มอัตราการว่างงานของไทยในเดือน มี.ค.-เม.ย. 60 คาดว่าจะสูงขึ้นจากจำนวนนักศึกษาที่จบใหม่จะเข้ามาสู่ตลาดแรงงานอีกราว 5.5 แสนคน จากล่าสุดสำนักงานสถิติแห่งชาติได้รายงานตัวเลขภาวะการว่างงานเดือน ม.ค. 60 อยู่ที่ 4.49 แสนคน คิดเป็นการว่างงานเพิ่มขึ้น 1.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
“เดือน ม.ค.มีผู้ว่างงานเพิ่มขึ้นราว 1.2 แสนคน โอกาสที่คนจะตกงานเพิ่มในเดือน มี.ค.-เม.ย.ก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.4-1.5 แสนคนได้เพราะนักศึกษาจบใหม่จะเข้ามาเพิ่มอีก และส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นปัญหาเดิมๆ ที่เด็กส่วนใหญ่จบปริญญาตรี 60% และส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นสายวิชาชีพก็จะหางานค่อนข้างยาก” นายธนิตกล่าว
ทั้งนี้ จากตัวเลขการว่างงานดังกล่าวในเดือน ม.ค. 60 สะท้อนจากการลงทุนของเอกชนในช่วง 2-3 ปีที่ติดลบ แม้ว่าในช่วงปี 2559 คาดว่าจะขยับมาบวกเล็กน้อยแต่ก็ยังถือว่าไม่มากเช่นเดียวกับในปี 2560 ที่คาดว่าจะเติบโตไม่มากนักด้วยกำลังการผลิตที่ยังคงเหลืออยู่จากแรงซื้อของคนไทยช่วงที่ผ่านมาลดต่ำ ขณะที่การเติบโตของการลงทุนส่วนใหญ่เกิดจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ
นายธนิตกล่าวว่า ในช่วง ม.ค.-ก.พ. 60 ปกติจะเป็นช่วงหมุนเวียนของการจ้างงานใหม่โดยพนักงานส่วนใหญ่หลังรับโบนัสก็จะลาออกเพื่อไปหาที่ใหม่ แต่ปีนี้กลับพบว่าการหมุนเวียนค่อนข้างต่ำคือการออกไม่มากแต่เด็กที่มาสมัครงานใหม่ค่อนข้างมีสูงขึ้น ดังนั้น เด็กที่จบใหม่จึงมีความเสี่ยงสูงหากการศึกษาจบมาไม่ตรงกับตลาดแรงงานที่ต้องการซึ่งส่วนใหญ่ต้องการสายอาชีวะ สายวิชาชีพ
สำหรับแนวโน้มแรงงานจากที่หารือกับหลายฝ่ายโดยเฉพาะภาคก่อสร้างยอมรับว่า กำลังประสบปัญหาที่แรงงานไทยไม่เข้าสู่แรงงานในส่วนนี้เลย โดยพบว่าแรงงานกลุ่มนี้เคยอยู่ก็ยังออกมาไปสู่อาชีพอื่นๆ โดยเฉพาะมอเตอร์ไซค์รับจ้างงาน ขณะเดียวกัน เด็กจบใหม่ส่วนหนึ่งก็ไม่เข้าสู่ตลาดแรงงานแต่เริ่มหันไปค้าขายออนไลน์ หรือมีธุรกิจตนเอง รวมถึงมีการเรียนต่อปริญญาโท