ทอท.ปล่อยมาเฟียยึดพื้นที่ดอนเมืองบริการ Valet Parking จอดรถหน้าอาคารผู้โดยสารทำผิดเงื่อนไข และสนามกอล์ฟกลางสนามบินเป็นจุดเสี่ยงสำคัญส่อทำสอบตกมาตรฐาน USAP ของ ICAO ด้าน กพท.สั่ง ทอท.แก้ไขด่วน หลังพบบกพร่อง 42 รายการ ขณะที่ ทอ.รับปิดสนามกอล์ฟให้ทัน หากถูกชี้เป็นข้อบกพร่อง “กพท.” มั่นใจสอบผ่าน หลังปิดความเสี่ยงก่อน ICAO ลงพื้นที่ตรวจจริง
รายงานข่าวแจ้งว่า จากที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) จะเข้ามาตรวจสอบท่าอากาศยานของไทย ตามโครงการตรวจสอบด้านการรักษาความปลอดภัย (Universal Security Audit Programme : USAP) ระหว่างวันที่ 11-21 ก.ค. 2560 โดยจะมีการตรวจสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ในด้านการบริหารจัดการก่อน จากนั้นจะลงพื้นที่ตรวจสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.นั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 20-26 มิ.ย.ที่ผ่านมา กพท.ได้สรุปผลการตรวจสอบเบื้องต้นด้านการรักษาความปลอดภัยสนามบินดอนเมือง พบว่ามีข้อบกพร่อง (Finding) ที่ต้องแก้ไขถึง 42 รายการ ทั้งด้านการกำกับดูแลและการบริหาร, มาตรการควบคุมการเข้าพื้นที่หวงห้าม (Access Control : ACC), บัตรอนุญาตและการตรวจสอบประวัติ, มาตรการรักษาความปลอดภัยทางกายภาพ, มาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณอาคารผู้โดยสาร, มาตรการตรวจค้นผู้โดยสารและสัมภาระไม่ลงทะเบียน เป็นต้น
รายงานข่าวแจ้งว่า ในมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณอาคารผู้โดยสาร (Security Measures at Terminal : TER) ถูก Finding ในข้อ 26 ระบุว่า บริเวณชานชาลาหน้าอาคารผู้โดยสารขาออกภายในประเทศมีการให้บริการ Valet Parking จากการตรวจสอบพบว่ามีการจอดเกิน 15 นาทีตามที่กำหนดไว้ใน SOP เป็นการไม่ปฏิบัติตามระเบียบและข้อบังคับ มีข้อบกพร่องที่ต้องปรับปรุง และในข้อ 27 พบข้อบกพร่องในลักษณะเดียวกันที่บริเวณชานชาลาอาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่า ทอท.ได้ทำสัญญาบริการ Valet Parking กับบริษัท พลังร่วม โดยจะมีเจ้าหน้าที่ให้บริการรับรถเพื่อนำไปจอดที่อาคารจอดรถ 5 ชั้น บริเวณคลังสินค้า โดยมีจุดรับรถที่อาคาร 1 (ขาออก) ประตู 1 และอาคาร 2 (ขาออก) ประตู 15 และจุดคืนรถที่อาคาร 1 (ขาเข้า) ประตู 1 และอาคาร 2 (ขาเข้า) ประตู 15 แต่ในทางปฏิบัติมีการ outsource และไม่มีการนำรถไปจอดที่อาคาร 5 ชั้น แต่กลับให้จอดรถที่ด้านหน้าอาคารผู้โดยสารเลย โดยเรียกเก็บเงิน 150 บาท จ่ายแล้วจอดได้ไม่เกิน 4 ชม.
ซึ่งการกระทำดังกล่าวนอกจากผิดเงื่อนไขแล้วยังทำให้พื้นที่หน้าอาคารผู้โดยสารเกิดความแออัด ซึ่งผู้ใช้บริการที่ต้องการจะจอดรถรับส่งตรงบริเวณดังกล่าวไม่ค่อยสะดวก และมักจะถูกไล่ให้รีบออก แต่หากจ่ายเงินจะสามารถจอดได้
นอกจากนี้ ประเด็นที่น่ากังวลมากคือ การให้บริการสนามกอล์ฟกานตรัตน์ (สนามงู) ซึ่งอยู่ระหว่างรันเวย์ของสนามบินดอนเมือง แม้ว่าจะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเช่น X ray บุคคล และอุปกรณ์ สัมภาระก่อนเข้าออกแล้วก็ตาม แต่มีความสุ่มเสี่ยงสูงที่จะกระทบต่อมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยได้ ซึ่งหากถูก ICAO ชี้ว่าเป็นข้อบกพร่อง กองทัพอากาศ (ทอ.) รับปากที่จะปิดสนามกอล์ฟทันที
ด้านนายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กล่าวว่า ทาง ICAO จะเริ่มตรวจ กพท.ด้านการกำกับดูแลวันที่ 11-13 ก.ค. จากนั้นจะตรวจภาคสนาม สนามบินสุวรรณภูมิ 4 วัน และสนามบินดอนเมือง 2 วัน ซึ่งมีคำถามทั้งหมด 463 ข้อ โดยก่อนหน้านี้ กพท.ได้เข้าไปตรวจ (audit) และประเมินความเสี่ยงสนามบินทั้ง 2 แห่งแล้วได้สั่งให้แก้ไขจุดบกพร่องเพื่อปิดความเสี่ยงทั้งหมด ซึ่งหลักๆ ICAO จะดูคู่มือกับการปฏิบัติ (Operation) ในภาพรวมไม่น่ากังวล เพราะทั้ง 463 ประเด็นอยู่ที่ ICAO จะสุ่มตรวจ และอยู่ที่ดุลยพินิจ
อย่างไรก็ตาม หาก ICAO พบจุดบกพร่องที่มีนัยสำคัญด้านการรักษาความปลอดภัย (SSEC) จะแจ้งให้ทราบในวันที่ 21 ก.ค.นี้ โดยจะมีเวลาแก้ไข 30 วัน ซึ่ง กพท.จะยื่นแผนแก้ไขและระยะเวลาให้ทันที หากสามารถแก้ไขได้ทันจะไม่ถูก SSEC แต่หากสุดวิสัยแก้ไขข้อบกพร่องไม่ทันหลักการของ ICAO จะไม่ประกาศหรือติดธงแดง เหมือนการตรวจสอบกำกับดูแลความปลอดภัยการบินพลเรือน (USOAP) แต่จะแจ้งไปยังประเทศอื่นๆ ในทางลับ ซึ่งขึ้นกับแต่ละประเทศจะพิจารณา อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าไทยจะไม่ถูก SSEC จาก ICAO ในเรื่องการรักษาความปลอดภัยแน่นอน
