สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เตรียมความพร้อมรองรับการที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) จะตรวจสอบตามโครงการด้านการรักษาความปลอดภัยการบินพลเรือน (ยูแซฟ) ของไทย ในวันที่ 11-21 กรกฎาคมนี้
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้เตรียมพร้อมเกี่ยวกับคำถามตามที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) แจ้งมาก่อนหน้านี้ จึงไม่มีอะไรน่ากังวล สาระหลักของการตรวจจะเน้นว่าปฏิบัติเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยตามคู่มือที่เขียนไว้หรือไม่ หากตรวจแล้วไม่พบข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญด้านการรักษาความปลอดภัย (เอสเอสอีซี) ภายใน 60 วัน หลังจากปิดการตรวจวันที่ 21 กรกฎาคมนี้ ไอเคโอจะส่งหนังสือแจ้งผลการตรวจอย่างเป็นทางการมาให้ กพท.
ทั้งนี้ หากตรวจพบเอสเอสอีซี ทางไอเคโอจะแจ้งกลับไปยังสำนักงานใหญ่ไอเคโอ ประเทศแคนาดา ซึ่งไทยจะมีเวลาแก้ไขเอสเอสอีซีประมาณ 30 วัน หลังจากปิดการตรวจ หากแก้ไขสำเร็จถือว่าผ่านการตรวจ ไอเคโอจะมีหนังสือแจ้งผลการตรวจอย่างเป็นทางการมาให้ แต่หากแก้ไขไม่ได้ และไม่ผ่านการตรวจจะไม่มีการให้ธงแดง แต่ไอเคโอจะแจ้งผลการตรวจให้ประเทศสมาชิกได้ทราบในทางลับว่า ประเทศไทยติดข้อบกพร่องใดบ้าง จะไม่มีการเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และอาจเป็นจุดให้ผู้ก่อการร้ายอาศัยช่องดังกล่าวเข้ามาลงมือก่อเหตุต่างๆ ได้
ขณะที่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า กพท. ได้รายงานความคืบหน้าในการแก้ปัญหาธงแดง มาโดยตลอด ส่วนการแก้ข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (SSEC) ตามมาตรฐานการบินสากล 33 ข้อ ในการออกออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ ให้กับสายการบินที่มีเที่ยวบินระหว่างประเทศจำนวน 23 สาย ขณะนี้ได้ออกให้กับ 6 สายการบินแล้ว และในสัปดาห์หน้าจะออกให้อีก 2 สายการบิน
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้เตรียมพร้อมเกี่ยวกับคำถามตามที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) แจ้งมาก่อนหน้านี้ จึงไม่มีอะไรน่ากังวล สาระหลักของการตรวจจะเน้นว่าปฏิบัติเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยตามคู่มือที่เขียนไว้หรือไม่ หากตรวจแล้วไม่พบข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญด้านการรักษาความปลอดภัย (เอสเอสอีซี) ภายใน 60 วัน หลังจากปิดการตรวจวันที่ 21 กรกฎาคมนี้ ไอเคโอจะส่งหนังสือแจ้งผลการตรวจอย่างเป็นทางการมาให้ กพท.
ทั้งนี้ หากตรวจพบเอสเอสอีซี ทางไอเคโอจะแจ้งกลับไปยังสำนักงานใหญ่ไอเคโอ ประเทศแคนาดา ซึ่งไทยจะมีเวลาแก้ไขเอสเอสอีซีประมาณ 30 วัน หลังจากปิดการตรวจ หากแก้ไขสำเร็จถือว่าผ่านการตรวจ ไอเคโอจะมีหนังสือแจ้งผลการตรวจอย่างเป็นทางการมาให้ แต่หากแก้ไขไม่ได้ และไม่ผ่านการตรวจจะไม่มีการให้ธงแดง แต่ไอเคโอจะแจ้งผลการตรวจให้ประเทศสมาชิกได้ทราบในทางลับว่า ประเทศไทยติดข้อบกพร่องใดบ้าง จะไม่มีการเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และอาจเป็นจุดให้ผู้ก่อการร้ายอาศัยช่องดังกล่าวเข้ามาลงมือก่อเหตุต่างๆ ได้
ขณะที่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า กพท. ได้รายงานความคืบหน้าในการแก้ปัญหาธงแดง มาโดยตลอด ส่วนการแก้ข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (SSEC) ตามมาตรฐานการบินสากล 33 ข้อ ในการออกออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ ให้กับสายการบินที่มีเที่ยวบินระหว่างประเทศจำนวน 23 สาย ขณะนี้ได้ออกให้กับ 6 สายการบินแล้ว และในสัปดาห์หน้าจะออกให้อีก 2 สายการบิน
