“กรมเจ้าท่า” ยกระดับความปลอดภัยเรือแสนแสบและเจ้าพระยา ปรับโฉมเรือแสนแสบขึ้นลงทางเดียวไม่ต้องเสี่ยงตกน้ำ นำออกให้บริการนำร่องผลงานน่าพอใจ ลุยปรับใหม่ครบทั้ง 72 ลำในปี 60 ให้มีความสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น ส่วนเรือเจ้าพระยามีทั้งปรับเพิ่มที่นั่งและตีช่องให้ยืนเพื่อคุมผู้โดยสารเกินกำหนด
นายศรศักดิ์ แสนสมบัติ อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัท ครอบครัวขนส่ง จำกัด ผู้ให้บริการเดินเรือในคลองแสนแสบได้ดำเนินการปรับปรุงเรือต้นแบบจำนวน 2 ลำเสร็จแล้ว และได้นำออกให้บริการผู้โดยสารแล้ว ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากมีการจัดที่นั่ง 2 ด้าน และมีทางเดินตรงกลาง มีทางขึ้น-ลงเรือจุดเดียว สะดวกและปลอดภัยกว่าเดิมที่ที่นั่งจะขวางกลางลำเรือต้องขึ้นลงที่กราบเรือทุกจุด เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ นอกจากปรับปรุงโครงสร้างเรือแล้วยังจะมีการติดตั้งอุปกรณ์ให้ข้อมูลข่าวสารผ่านทางเสียงกับผู้โดยสาร เช่น แจ้งท่าเรือที่จะถึง เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเตรียมตัว ทำให้การเดินเรือมีความคล่องตัว โดยเรือแสนแสบมีประมาณ 72 ลำ ที่เหลืออีก 70 ลำได้เร่งรัดให้ดำเนินการปรับปรุงให้แล้วเสร็จในปี 2560
ส่วนเรือด่วนเจ้าพระยานั้น บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด ได้ทำเรือนำร่องเพื่อจัดระเบียบผู้โดยสารบนเรือ เพื่อความปลอดภัย โดยจะมีการตีช่องขนาด 40X50 ซม. กำหนดเป็นจุดยืนให้ผู้โดยสารยืน ซึ่งผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่จะมองเห็นได้ชัดเจนว่า หากไม่มีช่องว่างให้ยืนแล้วแสดงว่าผู้โดยสารเต็มความจุของเรือแล้ว ซึ่งเรือด่วนเจ้าพระยามีประมาณ 50-60 ลำ ซึ่งจะปรับปรุงเรือขนาดใหญ่จำนวน 15 ลำเสร็จก่อนในวันที่ 15 ก.พ. 60 ส่วนอีก 40 ลำจะปรับปรุงเสร็จในเดือน เม.ย. 2560 พร้อมกันนี้ในเดือน ก.พ. 2560 จะมีการติดตั้งอุปกรณ์บอกข้อมูลทั้งแบบเสียงและแบบภาพให้ผู้โดยสารได้รับทราบทั้งท่าเรือที่จะถึงและข่าวสารอื่นๆ
สำหรับการปรับปรุงเรือด่วนเจ้าพระยานั้นจะเริ่มที่เรือธงเหลือง (เรือด่วนพิเศษ) ซึ่งปัจจุบันมี 101 ที่นั่ง โดยติดที่นั่งเพิ่มเป็น 150 ที่นั่งนำร่อง 2 ลำ เสร็จในวันที่ 6 ม.ค. 2560 พร้อมกันนี้จะมีการติดระบบให้ข้อมูลไปด้วย ส่วนการตีเส้นผู้โดยสารยืนนั้นจะทำในเรือธงส้มก่อน 2 ลำ ซึ่งมี 70 ที่นั่ง เป็นการจัดระเบียบผู้โดยสารยืนให้เกิดความปลอดภัย
ส่วนการเดินเรือเฟอร์รีเชื่อมอ่าวไทย เส้นทางพัทยา-หัวหิน (ท่าเรือแหลมบาลีฮาย-ท่าเรือองค์การสะพานปลา) นั้น ในวันที่ 30 ธ.ค.นี้คณะกรรมการกำหนดอัตราค่าโดยสารจะประชุมเพื่อพิจารณาอัตราค่าโดยสารซึ่งบริษัท รอยัล พาสเสนเจอร์ ไลเนอร์ จำกัด เสนออัตรา 1,250 บาท โดยจะพิจารณาจากต้นทุนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สามารถให้บริการได้ซึ่งในเรือจะกำหนดชั้นผู้โดยสาร 3 คลาส คือ ชั้นธรรมดา ค่าโดยสารไม่เกิน 1,250 บาท, ชั้นธุรกิจและชั้น 1 จะเก็บค่าโยสาร 1,250 บาท และบวกเพิ่มค่าธรรมเนียม โดยบริษัทฯ เสนอแผนธุรกิจประเมินว่าผู้โดยสารจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยว คาดว่าจะมีจำนวนผู้โดยสารประมาณ 50% ของความจุ (Load Factor) การเดินเรือในเส้นทางนี้เป็นครั้งแรกซึ่งเป็นโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยว ดังนั้นจะต้องเก็บข้อมูลและประเมินในช่วง 6 เดือนก่อนว่าบริการค่าโดยสารที่กำหนดสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้หรือไม่ และได้รับการตอบรับจากตลาดอย่างไร