“กรมทางหลวง” สรุปสถิติอุบัติเหตุบนโครงข่ายทางหลวงเดือน พ.ย. 59 มีจำนวน 641 ครั้งเพิ่มจาก พ.ย. 58 ที่มี 508 ครั้ง ถึง 26% โดยมีผู้เสียชีวิต 150 คน บาดเจ็บ 720 คนทรัพย์สินราชการเสียหาย 9 ล้านบาท เผยสาเหตุหลักเกิดจากขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด โดยเกิดเหตุที่ถนนในภาคเหนือมากที่สุด รองลงมาเป็นภาคอีสาน เพิ่มมาตรการกับตำรวจกวดขันความเร็ว
รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) แจ้งว่า สำนักอำนวยความปลอดภัย กรมทางหลวง ได้รวบรวมรายงานข้อมูลอุบัติเหตุบนทางหลวงทั่วประเทศ ประจำเดือนพฤศจิกายน 2559 จากการรายงานอุบัติเหตุทางระบบ HAIMS (สรุปยอด ณ วันที่ 6 ธันวาคม 2559) พบว่า มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบนทางหลวงในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง จำนวน 641 ครั้ง สูงกว่าปี 2558 ที่มีจำนวน 508 ครั้งประมาณ 26% มีผู้เสียชีวิต 150 คน ลดลงจากปีก่อนที่มีผู้เสียชีวิต 151 คน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 720 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มี 567 คน ประมาณ 27% ขณะที่จำนวนรถที่เกิดอุบัติเหตุมี 927 คัน ส่วนปีก่อนมี 776 เพิ่มขึ้น 19% และเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของกรมทางหลวงเสียหายประมาณ 9 ล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบสถิติอุบัติเหตุประจำเดือนพฤศจิกายน 2558 และประจำเดือนพฤศจิกายน 2559 พบว่า เดือนพฤศจิกายน 2559 มีอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น 26% ส่วนสาเหตุหลักการเกิดอุบัติเหตุมาจากผู้ขับขี่ขับรถด้วยความเร็วสูงกว่ากฎหมายกำหนด (72%) รองลงมาคือ หลับใน (7%) การตัดหน้าระยะกระชั้นชิด (7%) และอุปกรณ์รถบกพร่อง (3%) ตามลำดับ
สำหรับอุบัติเหตุประจำเดือนพฤศจิกายน 2559 ส่วนใหญ่เกิดบริเวณทางตรง คิดเป็น 59% ของการเกิดอุบัติเหตุทั้งหมด (377 ครั้ง) รองลงมาได้แก่ ทางโค้งปกติ คิดเป็นร้อยละ 17 (106 ครั้ง) และทางแยกระดับเดียวกัน คิดเป็นร้อยละ 7 (45 ครั้ง) ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่พบว่า รถปิคอัพบรรทุก 4 ล้อ จำนวน 287 คัน คิดเป็น 31% ของจำนวนรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุทั้งหมด รองลงมาได้แก่ เป็นรถยนต์นั่ง จำนวน 251 คัน และรถจักรยานยนต์ จำนวน 134 คัน
หากจำแนกตามภาคของการเกิดอุบัติเหตุพบว่าเส้นทางในภาคเหนือเกิดอุบัติเหตุสูงสุด คิดเป็น 27% ของจำนวนการเกิดอุบัติเหตุทั้งหมด (173 ครั้ง) รองลงมาได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 140 ครั้ง และภาคใต้ จำนวน 109 ครั้ง
สำหรับอุบัติเหตุจำแนกตามประเภททางหลวงในเดือนพฤศจิกายน 2559 พบว่า มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นสูงสุดบนทางหลวง 3 หลัก (เช่น ทางหลวงหมายเลข 201 สายสีคิ้ว-เชียงคาน) จำนวน 225 ราย รองลงมา คือ ทางหลวง 1 หลัก (161 ราย) ทางหลวง 4 หลัก (137 ราย) และทางหลวง 2 หลัก (118 ราย) ตามลำดับ
ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้มีมาตรการแก้ไขที่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องร่วมกับตำรวจทางหลวงในการบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการตรวจจับความเร็วยานพาหนะที่วิ่งบนทางหลวง ซึ่งเป็นมาตรการที่สำคัญในการลดและป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม กรมทางหลวงขอความร่วมมือผู้ใช้รถใช้ถนนโปรดขับขี่รถด้วยความระมัดระวัง เคารพกฎจราจร พร้อมทั้งศึกษาเส้นทางที่จะใช้เดินทางเพื่อความปลอดภัยของท่านและผู้ใช้รถใช้ถนน รวมถึงป้องกันการเกิดอุบัติเหตุให้ได้ประสิทธิผลต่อไป สำหรับประชาชนที่ต้องการแจ้งอุบัติเหตุหรือสอบถามข้อมูล การเดินทางบนทางหลวงเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทร.ฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง สายด่วนมอเตอร์เวย์ 1586 กด 7 และตำรวจทางหลวง 1193 (ตลอด 24 ชั่วโมง)
