“คมนาคม” ถกร่วม รฟม.-กทม. เข็นโอนเดินรถสายสีเขียวใต้ (แบริ่ง-สมุทรปราการ) พร้อมเคลียร์หนี้สินจบใน พ.ค. 60 ด้าน กทม.รับหลักการชำระคืนรวม 2.141 หมื่นล. โดยเตรียมเสนอสภา กทม.อนุมัติใน ม.ค. 60 พร้อมเจรจาคลัง จัดทำร่างข้อบัญญัติการกู้เงิน เชื่อ ม.ค.นี้ รู้เดินหน้าโอนหรือล้มโต๊ะเจรจา ขณะที่มั่นใจ สภา กทม.ไม่น่ามีปัญหาเพราะทำเพื่อประโยชน์ประชาชน ด้าน รฟม.วางแผนสำรอง เจรจา จบไม่ทันเปิดเดินรถ 1 มี.ค. 60 ขอคิดค่าใช้ทางก่อน หากยกเลิกพร้อมเดินรถเอง
นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประเมินมูลค่าหนี้สิน และทรัพย์สินและพิจารณากำหนดขั้นตอนการโอนหนี้สินและทรัพย์สิน โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ว่าล่าสุดทางการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ส่งบัญชีทรัพย์สินต่างๆ ให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) ตรวจสอบรายละเอียดแล้ว โดยทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบกรอบวงเงินโครงการรวมที่ 21,415.457 ล้านบาท โดยเป็นส่วนที่ รฟม.ได้จ่ายออกไปแล้ว 3,543.778 ล้านบาท ซึ่ง กทม. ต้องชำระเป็นก้อนแรก ส่วนที่เหลือประมาณ 17,559.33 ล้านบาทจะเป็นเงินต้น (เงินกู้ระยะยาว) ค่าดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมต่างๆ ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2559 ทาง กทม.และกระทรวงการคลังจะพิจารณารายละเอียดการชำระคืนร่วมกัน
ทั้งนี้ กทม.รับหลักการทั้งหมดเสนอต่อที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร ในเดือน ม.ค. 2560 ซึ่งเป็นไปตามมติคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ให้โอนการเดินรถโอนทรัพย์สินและหนี้สิน รถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ (แบริ่ง-สมุทรปราการ)และเขียวเหนือ (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) ให้ กทม. โดยจะดำเนินการโอนสายสีเขียวใต้ก่อน ในขณะเดียวกัน คณะกรรมการประเมินมูลค่าหนี้สินและทรัพย์สินฯ จะประชุมในต้นเดือน ม.ค. 60 อีกครั้งเพื่อสรุปข้อเท็จจริงทั้งหมดทั้งประเด็นทางข้อกฎหมาย กรอบวงเงิน, ขั้นตอนและวิธีการโอน รายงานต่อที่ประชุม คจร.ที่คาดว่าจะประชุมในเดือน ม.ค. 2560
โดยในเดือน ม.ค. 2560 จะมีความชัดเจนเรื่องการโอนสายสีเขียวว่าจะเดินหน้าต่อไปหรือไม่ เนื่องจากหากสภา กทม.รับทราบจะเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปคือในเดือน มี.ค. 2560 ทาง กทม.จะต้องนำเสนอร่างข้อบัญญัติการกู้เงินของ กทม.ให้กระทรวงการคลังเพื่อดำเนินการจัดหาเงินกู้ชำระคืน โดยประเมินว่าจะสรุปรายละเอียดและเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ในเดือน เม.ย. แต่หากสภา กทม.รับหลักการโดยมีเงื่อนไขมากจนไม่สามารถโอนแล้วเสร็จทันกำหนดเปิดเดินรถซึ่ง กทม.กำหนดว่าจะมีการทดลองเดินรถก่อน ช่วง 1 สถานี จากแบริ่ง-สำโรง วันที่ 1 มี.ค. 2560 ทาง รฟม.ได้เสนอแผนสำรองโดยในระยะสั้นระหว่างการโอนยังไม่เรียบร้อยจะคิดค่าเช่าใช้โครงสร้างพื้นฐานในช่วงดังกล่าวไปจนกว่าจะโอนเรียบร้อย และมีแผนระยะยาวกรณีที่การโอนล้มเหลวกรณีสภา กทม.ไม่รับหลักการ ทาง รฟม.จะเดินรถเอง
“ในเดือนมกราคม 2560 จะรู้แล้วว่าการโอนเดินรถสีเขียวให้ กทม.จะเดินหน้าไปได้หรือไม่ เพราะปัญหาตอนนี้คือต้องรอให้สภา กทม.เห็นชอบกรอบการหารือทั้งหมดก่อน จากนั้นทาง กทม.ต้องออกร่างข้อบัญญัติเงินกู้เพื่อชำระเงินคืน คาดว่าทางสภา กทม.น่าจะไม่มีปัญหาเพราะเป็นการดำเนินการเพื่อประชาชน ส่วนทางด้านการเงินที่ต้องชำระคืนนั้นเป็นส่วนที่ กทม.ต้องหารือกับคลัง ซึ่งกรณีเงินก้อนแรก 3,543 ล้านบาทนั้นจะเป็นส่วนที่ต้องจ่ายให้ รฟม.22 ล้านบาท และจ่ายคืนคลัง 3,500 ล้านบาทเศษ ทางสำนักงบประมาณจะดูระเบียบที่เกี่ยวข้อง ถ้า กทม.ไม่ชำระในวันที่โอน ต้องดูว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง” รองปลัดกระทรวงคมนาคมกล่าว