เลื่อนวัดเรตติ้งทีวีงวดแรก สินค้าวัยรุ่นมุ่งสื่อทีวีดิจิตอล

ผู้จัดการรายวัน360- MRDA เผย กันตาร์ ต้องเลื่อนวัดเรตติ้งรอบแรก เหตุช่วงเดือนต.ค.โฆษณาหาย อาจทำให้ผลวิจัยคลาดเคลื่อน ชี้ตัวเลขใหม่น่าสนใจเชื่อทำอุตสาหกรรมโทรทัศน์คึกคักได้ มองการแข่งขันทีวีดิจิตอลปี60 เหนื่อย ผลจากการปรับตัวขายหุ้น-เพิ่มทุน ของแต่ละช่อง ไม่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อสื่อโฆษณาของลูกค้ามากไปกว่านโยบายใหม่ที่น่าสนใจ บวกสื่อดิจิตอลมาแรงลูกค้าเทใจเกินครึ่ง

นางวรรณี รัตนพล อุปนายกสมาคมวิจัยเพื่อพัฒนาสื่อ (ประเทศไทย) หรือ MRDA เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการวัดเรตติ้ง ว่า ตามกำหนดเดิมที่นั้น จะต้องติดตั้งระบบงวดแรกให้กับกันตาร์ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับสิทธิ์ในการวัดเรตติ้งเพื่อใช้ดำเนินการตามขั้นตอนการวิจัยในการจัดทำ Establishment Survey 30,000 ตัวอย่าง เพื่อศึกษาโครงสร้างตลาด จากที่คาดว่าจะมีการนำผลการวิจัยมาใช้อย่างเป็นทางการได้ในช่วงไตรมาสที่สาม หรือตั้งแต่เดือน ส.ค. ของปี 2560นั้ น

ขณะนี้คาดว่าคงไม่ทันกำหนดเดิม อาจจะต้องเลื่อนระยะเวลาออกไปก่อน เนื่องจากช่วงเดือนต.ค.59ที่ผ่านมา เม็ดเงินโฆษณาหายไปจากตลาดแทบจะทั้งหมด ซึ่งอาจจะทำให้ตัวเลขเรตติ้งในภาพรวมอาจจะคลาดเคลื่อนหรือผิดไปจากความเป็นจริงได้ แต่ทั้งนี้ยังคงเดินหน้าเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่องสำหรับนำมาใช้ในปีหน้า(2560)

“กลุ่มตัวอย่างกว่า 30,000 ครัวเรือนทั่วประเทศที่สำรวจในครั้งนี้ จะให้ผลการวิจัยที่แตกต่างจากข้อมูลเดิมที่ผ่านมา เช่น เรตติ้งของบางข้อมูลในบางช่วงเวลา ปกติจะเป็นที่ทราบกันว่าจะมีเรตติ้งสูงในเขตเมือง แต่ในผลวิจัยครั้งนี้กลับสลับกัน เป็นเรตติ้งในชานเมืองสูงกว่าในเขตเมืองแทน เป็นต้น ดังนั้นจึงถือเป็นข้อมูลสำคัญที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนรูปแบบการลงโฆษณาในปีหน้าอย่างน่าสนใจ”

ทั้งนี้มองว่าภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาในปีหน้า(2560)น่าจะกลับมาโตได้มากสุด 4% โดยสื่อทีวียังคงมีสัดส่วนหลักกว่า 60% อยู่ แต่เนื่องจากจำนวนช่องที่มีมากมาย เม็ดเงินโฆษณาในแต่ละช่องจึงอาจจะไม่สูงมากนัก ปีหน้าการแข่งขันของทีวีดิจิตอลยังเหนื่อยอยู่ ขณะที่สื่อดิจิตอลกลับเป็นคู่แข่งที่น่าสนใจ เพราะปีหน้าจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 40% ลูกค้าหันมาให้ความสำคัญมากขึ้น หรือเลือกเป็นสื่อหลักในการทำกิจกรรมทางการตลาดในบางแคมเปญด้วย โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มวัยรุ่น ส่วนสินค้าประเภทอุปโภคบริโภคยังคงให้สื่อทีวีเป็นหลักอยู่

นางวรรณี กล่าวต่อว่า พฤติกรรมการลงโฆษณาในสื่อทีวีของลูกค้านั้น แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงของบางสถานีฯ ซึ่งมีทั้งการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นหรือเพิ่มทุนเข้ามาก็ตาม ซึ่งที่ผ่านมาก็เกิดขึ้นแล้วหลายสถานี ( เช่น ช่องอัมรินทร์ทีวีเปิดทางให้ตระกูลสิริวัฒนภักดี เข้ามาถือหุ้นใหญ่ หรือช่องวันเปิดทางให้ตระกูลปราสาททองโอสถ เข้ามาถือหุ้นใหญ่ เป็นต้น) ไม่ได้มีผลต่อการตัดสินใจซื้อโฆษณาในสื่อทีวีของลูกค้า แต่หากสถานีฯนั้นมีนโยบายใหม่ๆออกมา นั่นน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการลงโฆษณามากเท่ากับคอนเทนต์ และเรตติ้งในแต่ละรายการมากกว่า

สำหรับการทำงานของMRDA เดิมจะต้องเซตระบบงวดแรกให้กับกันตาร์เพื่อใช้ดำเนินการตามขั้นตอนการวิจัยในการจัดทำ Establishment Survey 30,000 ตัวอย่าง เพื่อศึกษาโครงสร้างตลาด ที่จะคัดเลือกกลุ่มบ้านตัวอย่างให้เหลือ 3,000 ครอบครัวทั่วประเทศ โดยประมาณการไว้ว่าจะมีอุปกรณ์เพื่อเสพสื่ออื่นๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต ถึง 9,600 คน

อีกทั้งยังจะมีการทำวิจัยประจำปีหรือ Annual Establishment Survey ทั่วประเทศอีกจำนวน 20,000 ตัวอย่าง เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงของตลาด และปรับกลุ่มบ้านตัวอย่างในเหมาะสมกับสภาพตลาด เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมทั้งผู้ซื้อ และผู้ขายโฆษณา ซึ่งจากเดิมคาดว่าจะมีการใช้ผลการวิจัยอย่างเป็นทางการได้ในช่วงไตรมาสที่สาม หรือตั้งแต่เดือน ส.ค. ของปี 2560 แต่ทั้งนี้อาจจะต้องเลื่อนการใช้ผลจิจัยออกไปเล็กน้อย


>