“ฌอห์ณ จินดาโชติ” เฉยๆ “เอสเธอร์” เลี่ยงเจอ บอกถ้าจะเลี่ยง เลี่ยงละครดีกว่า เพราะตนเพิ่งรีเควส ขอเล่นละครคู่กัน ลั่นไม่ใช่เด็ก ป.4 จะได้มีเรื่องหมางใจ “เคน ภูภูมิ” บอกถ้าเจอตัวจะขอถ่ายรูปคู่ เพราะชอบละครนาคีมาก รับมีผู้ใหญ่ทาบเล่นหลายช่อง แต่ให้เกียรติช่องวัน ไม่ลืมบุญคุณ ทำให้มีรถมีบ้านทุกวันนี้
เป็นประเด็นขึ้นมาอีกแล้ว เพราะในงานเปิดตัวบัตรเครดิต ยูโรแพลตินัม ยูโอบี ณ สยามดิสคัฟเวอรี่ ร้านบิลบอร์ดคาเฟ่ชั้น 2 มีรายชื่อของพระเอกหนุ่ม “ฌอห์ณ จินดาโชติ” และนางเอกสาว “เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา” ออกงานด้วยกัน แต่ปรากฏว่า เมื่อถึงเวลากลับไร้เงานางเอกสาว งานนี้กระแสดรามาเลยปะทะว่าสาวเอสเธอร์เลี่ยงเจอหนุ่มฌอห์ณหรือเปล่า ซึ่งเจ้าตัวก็รีบแก้ต่างให้แทนว่าไม่เป็นความจริง เพราะเดี๋ยวจะมีละครคู่กันอีก งานแค่นี้ไม่เลี่ยงแน่นอน
“เอาจริงๆ เรื่องนี้ผมมาทราบตามหมายว่ามีชื่อน้องด้วยเมื่อสองวันก่อน และตามหมายงานจริงๆ แล้วเขาเชิญผมมาสองอาทิตย์ก่อนหน้าแล้ว ตอนแรกทราบแค่ว่ามีผม และ ซัน ประชากร รู้แค่นี้จริงๆ แล้วก็มารู้จากคนอื่นว่าน้องจะมาด้วย ผมก็อ้าวเหรอ การทำงานคู่ของผมไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ว่ามันก็อยู่กับลูกค้าแหละครับว่าเขาจะจ้างเดี่ยวหรือจ้างคู่กันหรือจ้างแบบไหนก็แล้วแต่มันไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ผมรู้สึกว่ามันไม่ได้มีงานคู่กันมาสักพักหนึ่งแล้ว”
“ไม่ได้เลี่ยงหรอกครับ เดี๋ยวจะมีละคร ผู้ใหญ่ช่องวันก็เรียกเข้าไปคุยว่าจะมีแพลนละคร งานแค่นี้จะเลี่ยงทำไม ถ้าจะเลี่ยงจริงๆ เลี่ยงละครดีกว่าเพราะมันอยู่นานกว่า กระแสดรามาก็ไม่กลัวครับ เราไม่ได้ทำอะไรผิด น้องก็เป็นน้องคนหนึ่งที่ทำให้ผมมีวันนี้จะไปกลัวอะไร ถ้าจะกลัวก็คือกลัวตอบเรื่องเคน (ภูภูมิ พงศ์ภาณุ) มากกว่า ผมก็ไม่รู้ว่าเคนเขาทำอะไรอยู่ ไม่รู้ว่าตอนนี้เคนไปอยู่ไหน ผมอาจจะตอบเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ”
“เรื่องของน้องก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา จะตอบได้แค่ว่าชีวิตตอนนี้ของผมเป็นยังไง ส่วนเรื่องการรับงานไม่คิดจะเลี่ยงกันอยู่แล้วแค่หนึ่งชั่วโมงเอง อย่างที่บอกไปถ้าจะเลี่ยงจริงๆ เลี่ยงละครดีกว่า ทำงานด้วยกันตั้งหลายเดือน แต่เราไม่เลี่ยงเพราะเขาก็ได้ตังค์เราก็ได้ตังค์ แต่ก็ขึ้นอยู่กับผู้ว่าจ้างทั้งหมดไม่ได้อยู่ที่ตัวเรา”
“ถามว่าถ้าเจอกันจะถามสาเหตุมั้ย ถ้าอยากให้ถามผมก็ถามให้ได้ ผมไม่ได้อะไรนะ เพราะช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาก็ได้ทักไลน์กันไปไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน แต่ผมก็คงไม่กล้าถามหรอกว่าติดงานด่วนเหรอถึงมาไม่ได้ เขาก็มีมุมส่วนตัวของเขา ถามแต่เทศกาลมากกว่าอย่างวาเลนไทน์ก็ส่งไปหรือสงกรานต์เป็นไปตามวาระโอกาส ไม่งั้นเขาจะหาว่าเราวอแว”
บอกถ้าเจอ “เคน ภูภูมิ” จะขอถ่ายรูปคู่ เพราะชอบเรื่องนาคี ยันไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน ใครรักกันก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี
“ผมไม่รู้นะ เรื่องส่วนตัวก็เป็นเรื่องส่วนตัวครับ ผมไปคิดแทนเขาไม่ได้ บางทีเขาอาจจะมีเหตุผลของเขา อันไหนรับงานได้ อันไหนงานคู่ไม่ได้ก็เป็นเหตุผลส่วนตัวของเขา เราก็แค่ทำตัวของเราให้ปกติ แสดงความบริสุทธิ์ใจว่าทุกอย่างปกติ ถ้าเจอเคนก็จะไปขอถ่ายรูปเพราะชอบนาคี ก็ติดตามครับ คือผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใคร ใครรักกันเป็นเรื่องที่น่ายินดีครับ เราก็ช่วยส่งเสริมกัน ถ้ามีโอกาสกลับมาถ่ายละครด้วยกันก็กลับมา”
“การตอบเรื่องของคนอื่นมันเป็นเรื่องกดดันสำหรับตัวผมอยู่เสมอเพราะมันเป็นเรื่องของคนอื่น การตอบเรื่องของตัวเองชัดเจนที่สุด ให้ผมตอบเรื่องพี่สาวคงจะง่ายกว่าตอบเรื่องของคนอื่น เพราะผมรู้จักเขาดีและผมก็รู้ว่าพี่สาวเขารู้ว่าผมตอบด้วยการคิดอะไร แต่ว่าเราไปคิดแทนคนอื่นไม่ได้ บางทีคำตอบของผมอาจจะคลาดเคลื่อนทำให้อาจจะมีปัญหากัน ฉะนั้นผมไม่ชอบตอบเรื่องของคนอื่นอยู่แล้ว”
เผยไม่ใช่เด็ก ป.4 จะมีเรื่องหมางใจกันเพราะเรื่องแค่นี้
“เรื่องเขาจะหมางใจกัน โห...ถ้าเรื่องงานแค่นี้หมางใจกัน ผมว่ามันก็ไม่น่าเป็นนะครับ กับเคนผมก็ไม่ได้รู้จักกับน้องเป็นการส่วนตัว ขนาดเจอกันเมื่อนานมากแล้วที่เกาะเสม็ด ก็ไม่ได้หมางใจอะไรกัน ต่างคนต่างทำงาน น้องก็นั่งกินข้าวใกล้ๆ กันก็ปกติดี เราโตๆ กันแล้วไม่ใช่เด็ก ป.4 - ป.5 ที่ฉันไม่ชอบเธอ เธอไม่ชอบฉัน เราอยู่ในวงการเดียวกัน แฮปปี้ดีก็ดี ถ้าวันหนึ่งมีโอกาสทำงานช่องเดียวกันก็สนับสนุนกันไปมากกว่า ไม่มาคิดอะไรไม่ดีกันครับ”
รับเป็นคนรีเควสขอละครคู่กับ “เอสเธอร์” เอง บอกถึงเป็นนักแสดงอิสระ แต่ไม่ลืมช่องวันแน่นอน
“ก็เพิ่งคุยกับผู้ใหญ่ไปครับ ตัวผมเองเป็นคนรีเควสเองว่าอยากกลับมา ผมก็บอกพี่บอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) เองว่าผมอยากกลับมานะ มีเรื่องในใจที่อยากจะกลับมาเจอน้อง เพราะเรารู้สึกว่าเรตติ้งเงาอโศกค่อนข้างดี ได้ตั้ง 3 กว่า เราก็เลยว่าอยากกลับมาก็รอเวลาที่เหมาะสม รอบทที่น้องเขาชอบ ผมรู้สึกว่าเรื่องปัญหาของวันนี้มันเป็นแค่เรื่องของการคุยงาน เรื่องของตัวผู้ใหญ่ เขาจะดีลงานกันยังไงผมไม่มีปัญหา มีหน้าที่มาก็มา ไม่ว่างก็ไม่มา ผมรู้สึกว่าผมไม่เอาเรื่องอีเวนต์เดียวมาเป็นปัญหากับใคร คุณไม่มาก็ได้ ให้โอกาสผมไม่เคยตัดขาใคร ถ้าน้องมาได้ก็ให้เขามา เสนอชื่อคนใกล้ตัวง่ายกว่าคนที่เราไม่รู้จักมาแทนงานเราดีกว่า”
“กับช่องอื่นก็มีไปพูดคุยกันบ้างครับ ก็ถามว่าเราเป็นนักแสดงอิสระใช่หรือเปล่า ก็ตอบไปว่าเป็นนักแสดงอิสระ ก็จะมีหลายๆ ช่องเรียกเข้าไปคุยครับ ว่ามีโปรเจกต์แต่ยังไม่ไฟนอลครับ แต่สุดท้ายแล้วต้องให้เกียรติพี่ป้อน (นิพนธ์ ผิวเณร) ที่เป็นคนผลักดันเราขึ้นมาว่าจะยังไงดี ถึงแม้จะไม่เซ็นสัญญากับใคร แต่ก็ต้องให้เกียรติงานผู้ใหญ่ก่อน”
“ส่วนวันที่ช่องวันเปิดผังละครแล้วผมไม่ได้ไป เพราะผมอยู่งานอีเวนต์ครับ ผมไปไม่ได้ แล้วอีกอย่าง ละครช่องวันช่วงต้นปีผมยังไม่มี ละครในช่องวันตอนนี้ผมหมดสต็อกแล้วครับ ปีที่แล้วถ่ายไป 3 เรื่องติดเลย แล้วก็ออนแอร์หมดแล้ว ก็ไม่ได้น้อยใจอะไรครับ ละครเราถ่ายอยู่ยังไม่บวงสรวงด้วย แล้วก็ติดอีเวนต์ด้วยก็เลยต้องเอางานตัวเองก่อนครับ แต่กลางปีนี้จะมีละครกับช่องวันครับ ช่องเขาเป็นคนสร้างผมขึ้นมา ผมไม่มีทางลืมอยู่แล้วครับ ใครจ้างอะไรมาเราก็ทำครับ เรายังเป็นนักแสดงเราต้องถ่ายละคร”
บอกมีผู้จัดทาบทามเซ็นสัญญา แต่ตนอยากเป็นอิสระมากกว่า และไม่ลืมบุญคุณช่องวัน มีรถมีบ้านทุกวันนี้เพราะใคร
“ก็มีนะครับ แต่ก็บอกเขาว่าเรามีแพลนในการทำงานของเราแบบนี้ เรายังอยากเป็นนักเขียน เป็นช่างภาพ อยากทำอะไรหลายอย่าง ซึ่งทางผู้ใหญ่อาจจะไม่ค่อยเข้าใจในการทำงาน เพราะฉะนั้นก็เหมือนศึกษากันไปครับ พี่ป้อนเขาก็จะช่วยดู แนะนำละคร พี่หน่อง อรุโณชา หรือ อาจิ๋ม มยุรฉัตร เขาก็มีปรึกษางานละครกับเรา เราก็ขอคำปรึกษาท่านอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นผมเป็นนักแสดงอิสระดีกว่า น่าจะดีที่สุด”
“ถ้าคนจะติดภาพผมเป็นนักแสดงช่องวันก็ไม่แปลกครับ อยู่มาตั้งแต่ปี 58 จนถึงตอนนี้ก็ 6 - 7 เรื่องแล้วครับ ก็มีตังค์ซื้อรถซื้อบ้าน เพราะช่องวันด้วยส่วนหนึ่ง เพราะฉะนั้นก็ไม่ลืมกันครับ รับงานท่านได้ก็รับ บทไหนที่เราอยากเล่นเราก็ทำ อย่างเรื่องที่เพิ่งถ่ายอยู่กับ พี่อ้อม พิยดา ก็รับเพราะอยากเจอ พี่อ้อม อยากเจอ วิว วรรณรท ไม่ได้คิดอะไรเยอะ เพราะบทสนุก แต่ก็มีหลายๆ ช่องมาติดต่อ แต่ก็ต้องดูคิวกัน ผู้จัดเป็นใครเรารู้จักไหม เพราะเราเป็นนักแสดงอิสระ บางทีไปไม่รู้จักใครเลยก็อาจจะเก้อเขินบ้าง แต่ไม่เกี่ยงงานครับ ทำตามความเหมาะสม มีเวลาแค่ 7 วัน เราทำงานก็เอาให้เขาคุ้มค่าที่สุด เราก็เหมือนกันครับ”