“นายกฯ” เซ็นขยายเวลาเจรจา BEM เดินรถสีน้ำเงินตามคำสั่ง มาตรา44 อีก 30 วันแล้ว วงในเผย กก.ร่วม “คมนาคม-รฟม.”เตรียมผ่าทางตันแยกจ้างติดตั้งระบบ 1 สถานีก่อนเพื่อเร่งเปิดเดินรถเชื่อม “เตาปูน-บางซื่อ” ให้เร็วที่สุด พร้อมยันรัฐไม่อุดหนุนชดเชยให้เอกชน จำเป็นต้องเสนอนายกฯ ขอแยกเจรจาสัญญาต่อขยายออกจากสายเฉลิมรัชมงคล เผยรวมสัมปทาน 2 สายส่อเจรจายืดเยื้อ
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากที่ได้เสนอขอขยายเวลาการเจรจาเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินออกไปอีก 30 วัน ตามคำสั่งมาตรา 44 หลังจากที่คณะกรรมการร่วมฯ คือ คณะกรรมการกำกับดูแลโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (สายเฉลิมรัชมงคล) ตามมาตรา 43 แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 และคณะกรรมการมาตรา 35 แห่ง พ.ร.บ.ร่วมลงทุนฯ 2556 โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ยังเจรจากับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ตามคำสั่งมาตรา 44 ยังไม่ได้ข้อยุติ ซึ่ง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช.) ได้ลงนามคำสั่งเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2559 ขยายเวลา30 วัน ตามที่คณะกรรมการร่วมฯ เสนอ ซึ่งตนได้ส่งเรื่องต่อไปยังคณะกรรมการร่วมแล้ว ส่วนจะสามารถเจรจาได้ข้อยุติภายในอีก 30 วันนั้นจะต้องรอผล และปฏิบัติตามคำสั่งมาตรา 44 ต่อไป
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า คณะกรรมการร่วมฯ ได้นัดเจรจากับ BEM เมื่อวันที่ 23 พ.ย.แล้ว โดยจะเน้นในเรื่องการเดินรถ 1 สถานี (บางซื่อ-เตาปูน) ก่อนเพื่อให้สามารถเปิดเดินรถได้โดยเร็วที่สุด ซึ่งแนวโน้มคือจะให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นผู้ลงทุนวางราง ติดตั้งระบบเอง เพื่อความรวดเร็ว ซึ่งจะกลับไปสู่แนวคิดเดิมที่ก่อนหน้านี้ รฟม.จะขอแยกจ้าง BEM ดำเนินการช่วง 1 สถานีก่อน โดยมีการศึกษาวงเงินลงทุนเดิมของคณะกรรมการมาตรา 13 แห่ง พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 35 ในส่วนของค่าวางรางและติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ ระบบสื่อสารระบบตั๋วโดยสารที่สถานีเตาปูน วงเงินลงทุน 693 ล้านบาท วงเงินค่าจ้างปีละ 52 ล้านบาท โดยไม่รอการเจรจาสายสีน้ำเงินยุติก่อนตามแนวทางเดิม เนื่องจากจะยิ่งยืดเยื้อ และทำให้แก้ปัญหา 1 สถานีไม่ได้ กระทบต่อการเดินรถสายสีม่วง ช่วงคลองบางไผ่-เตาปูน
ส่วนการเจรจาตามกรอบเดิม ตามคำสั่งมาตรา 44 ที่ให้รวมสัญญาสัมปทานสายเฉลิมรัชมงคลกับสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายเข้าด้วยกันเป็นสัญญาเดียวนั้น อาจจะต้องมีการปรับใหม่ เพื่อไม่ให้ภาครัฐเกิดภาระ ดังนั้น แนวทางที่จะปรับใหม่คือ จะแยกเรื่องไม่ไปเกี่ยวข้องกับสัญญาสัมปทานเดิมสายเฉลิมรัชมงคลเดิม และแยกเจรจาเฉพาะสัญญาส่วนต่อขยาย ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค เท่านั้น โดยแนวทางนี้คณะกรรมการร่วมฯ สามารถนำเสนอต่อมาตรา 44 ได้เนื่องจากการวางกรอบหลักเกณฑ์การเจรจาโดยที่รัฐไม่เสียเปรียบ ประชาชนได้ประโยชน์ ตามคำสั่งมาตรา 44 เดิมไม่สามารถหาข้อยุติได้
“ก่อนหน้านี้ทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้เคยให้ความเห็นไว้แล้วว่า ควรก่อสร้างสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายก่อนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหารอยต่อ 1 สถานี แต่มีการนำสายสีม่วงมาดำเนินการก่อน จึงได้เสนอแนวทางแก้ปัญหา ด้วยการนำโครงสร้างงานโยธา ช่วงเตาปูน-บางซื่อ ไปรวมไว้กับสายสีม่วงเพื่อให้ก่อสร้างไปพร้อมกัน ส่วนการเดินรถนั้นให้อยู่ในสายสีน้ำเงินต่อขยายเหมือนเดิม แต่ตอนนี้ติดปัญหาเรื่องการวางราง ติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ” แหล่งข่าวกล่าว
