xs
xsm
sm
md
lg

การบินไทยยังทะยานไม่ขึ้น Q3/59 ขาดทุนสุทธิ 1,591 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“การบินไทย” ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/59 ขาดทุนสุทธิ 1,591 ล้านบาท เหตุขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์และเครื่องบินถึง 624 ล้านบาท โดยขนส่งผู้โดยสาร 5.5 ล้านคน มี Cabin Factor เฉลี่ย73.5% ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ภาพรวม ผลประกอบการ 9 เดือน ปี 59 ยังมีกำไรสุทธิ 1,504 ล้านบาท “จรัมพร” ย้ำเดินหน้ากลยุทธ์แผนปฏิรูประยะที่ 2 ปรับการทำงานเพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มรายได้ “สร้างความแข็งแกร่งในการแข่งขัน”

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ประจำปี 2559 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้รวม 44,126 ล้านบาท ลดลงจากไตรมา3/2558 ที่มีรายได้ 44,342 ล้านบาท หรือลดลง 216 ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายรวม 44,962 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 3/2558 ที่มีค่าใช้จ่าย 48,581 ล้านบาท หรือลดลง 3,619 ล้านบาท โดยขาดทุนจากการดำเนินงาน (Operating Loss) 836 ล้านบาท ขาดทุนลดลงจากปีก่อนถึง 3,403 ล้านบาท (80.3%) สาเหตุหลักเนื่องจากค่าน้ำมันเครื่องบินลดลง 5,504 ล้านบาท (33.6%) จากราคาน้ำมันเฉลี่ยลดลง 15.3% และการบริหารความเสี่ยงราคาน้ำมันได้ดีขึ้น แต่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานไม่รวมน้ำมันสูงขึ้น 6.7% จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น และมีค่าซ่อมแซมและซ่อมบำรุงอากาศยานเพิ่มขึ้นจากอัตราค่าซ่อมเครื่องยนต์ และการส่งซ่อมอะไหล่เครื่องยนต์สูงกว่าปีก่อน ถึงแม้ว่าการยกเลิกการเรียกเก็บอัตราค่าธรรมเนียมชดเชยค่าน้ำมันเกือบทุกพื้นที่ที่ทำการขายบัตรโดยสาร ทำให้รายได้ค่าโดยสารและน้ำหนักส่วนเกินลดลง 919 ล้านบาท (2.5%) แต่รายได้ค่าระวางขนส่งและไปรษณียภัณฑ์เพิ่มขึ้น 189 ล้านบาท (4.3%) และรายได้การบริการอื่นๆ เพิ่มขึ้นจากทุกหน่วยธุรกิจ

โดยในไตรมาสนี้มีผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์และเครื่องบินจำนวน 624 ล้านบาท แต่มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 120 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ และบริษัทย่อย ขาดทุนสุทธิ 1,591 ล้านบาท ขาดทุนลดลงจากปีก่อน 8,303 ล้านบาท (83.9%) โดยเป็นขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 1,601 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุนต่อหุ้น 0.73 บาท เปรียบเทียบกับปีก่อนที่ขาดทุน 4.54 บาท

สำหรับจำนวนผู้โดยสารไตรมาส 3/59 มีจำนวน 5.50 ล้านคน เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปี 2558 ที่มีผู้โดยสาร 5.11 ล้านคน โดยมีอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 73.5% ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีCabin Factor เฉลี่ย 74.4% และมีรายได้จากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อหน่วย (บาท/คน-กม.) ที่ 2.27 ต่ำกว่าปีก่อนที่มีรายได้ จากผู้โดยสาร 2.39

ทั้งนี้ จากการดำเนินการตามแผนปฏิรูปองค์กรอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลประกอบการเก้าเดือนแรกของปี 2559 มีกำไรจากการดำเนินธุรกิจการบินจำนวน 4,560 ล้านบาท ดีขึ้นมากเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนที่ขาดทุนถึง 4,536 ล้านบาท

ในไตรมาสที่ 3 บริษัทฯ ยังคงดำเนินกลยุทธ์ตามแผนปฏิรูปองค์กรระยะที่ 2 “สร้างความแข็งแกร่งในการแข่งขัน” ต่อเนื่องมาจากไตรมาสก่อน เช่น การปรับปรุงกระบวนการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้หน่วยธุรกิจ และยังได้เน้นการนำเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารรายได้ และการให้บริการ เช่น ระบบบริหารราคา (Fare Management System) เพื่อกำหนดราคาในเส้นทางต่างๆ ได้รวดเร็วและสามารถแข่งขันได้ ระบบการบริหารโครงข่ายเส้นทางบิน (Route Network Management System) เพื่อเพิ่มการเชื่อมโยงเส้นทางบินให้ดีขึ้น รวมทั้งระบบการให้บริการ เพื่อมุ่งบูรณาการให้งานบริการในทุกจุดสัมผัสสู่ความเป็นเลิศอย่างครบวงจร (Service Ring) เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ขั้นตอนที่ 3 ของการปฏิรูปเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainable Growth) ในปี 2560 นอกจากนี้ ในไตรมาสนี้ยังได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทฯ ให้ดำเนินการปรับปรุงอุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ในห้องโดยสารบนเครื่องบินโบอิ้ง 777-200ER จำนวน 6 ลำ ตามแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ระยะยาว 10 ปี ซึ่งจากการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ และการบริการอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับรางวัลสายการบินยอดเยี่ยมแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Best South-East Asian Airline 2016) จาก TTG Travel Awards เป็นปีที่ 10 ติดต่อกัน

ในไตรมาสนี้ บริษัทฯ รับมอบเครื่องบินแอร์บัส A350-900XWB 1 ลำ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2559 และปลดประจำการเครื่องบินเช่าดำเนินงานโบอิ้ง 777-200 1 ลำ ทำให้จำนวนเครื่องบินที่ใช้ในการดำเนินงาน ณ วันที่ 30 กันยายน 2559 มีจำนวน 94 ลำ ลดลง 1 ลำ เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 30 กันยายน 2558 แต่มีอัตราการใช้ประโยชน์ของเครื่องบิน (Aircraft Utilization) เพิ่มขึ้นเป็น 11.6 ชั่วโมง จาก 10.8 ชั่วโมง ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมีจำนวนผู้โดยสารที่ทำการขนส่งรวมทั้งสิ้น 5.50 ล้านคน สูงกว่าปีก่อน 7.6%

โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2559 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 287,356 ล้านบาท ลดลงจากวันที่ 31 ธันวาคม 2558 จำนวน 15,115 ล้านบาท (5.0%) จากการชำระคืนเงินกู้ทั้งระยะสั้นและระยะยาวการขายเครื่องบินที่ปลดระวาง และการสำรองด้อยค่าเครื่องบินเพิ่มขึ้นในปีนี้ หนี้สินรวมของบริษัทฯ และบริษัทย่อย เท่ากับ 253,878 ล้านบาท ลดลงจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558 จำนวน 15,667 ล้านบาท (5.8%) และส่วนของผู้ถือหุ้นมีจำนวน 33,478 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันที่ 31 ธันวาคม 2558 จำนวน 552 ล้านบาท (1.7%)
กำลังโหลดความคิดเห็น