“พาณิชย์” รุกแผนสองดันราคาข้าว เล็งใช้ข้าวเป็นของขวัญแจกปีใหม่ เผยล่าสุดสมาคมข้าวถุงพร้อมผลิตจัดส่งให้ห้าง สมาคมประกันวินาศภัยร่วมซื้อแจกลูกค้าถึง 2.5 หมื่นตัน พร้อมแนะหน่วยงานอื่นๆ ให้ทำตาม พร้อมใช้ประชารัฐ ดึงผู้ส่งออกช่วยชาวนาผลิตข้าวขาย จับมือ ปตท.-บางจากให้ขายในปั๊ม และผ่านเว็บไซต์ของกระทรวงฯ เผยมีแผนลุยเจาะตลาดอีกกว่า 20 คณะ เพื่อขายข้าวไทย
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์มีแผนที่จะช่วยกระตุ้นการบริโภคข้าวให้เพิ่มขึ้นเพื่อผลักดันราคาข้าวให้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่รัฐบาลได้มีมาตรการเข้าไปดูแลราคาข้าวเปลือกหอมมะลิให้แก่เกษตรกรแล้ว โดยล่าสุดจะผลักดันให้ภาคเอกชนหันมาใช้ข้าวมอบเป็นของขวัญปีใหม่ หรือให้ห้างที่จะมีการจัดกิจกรรมโปรโมชันลด แลก แจก แถม ให้ใช้สินค้าข้าวเข้ามาเป็นสินค้าที่เป็นไฮไลต์ เพื่อกระตุ้นการบริโภคข้าวให้เพิ่มสูงขึ้น และจะส่งผลให้ราคาข้าวปรับตัวดีขึ้น
“ตอนนี้สมาคมข้าวถุงได้พร้อมที่จะผลิตข้าวถุงเพื่อจัดส่งให้แก่ห้างค้าลีกทั่วประเทศ เพื่อนำไปเป็นของแถมแล้ว ขณะที่สมาคมประกันภัยวินาศภัยก็ได้แจ้งว่าจะซื้อข้าวหอมมะลิจำนวน 2.5 หมื่นตัน เพื่อไปเป็นของแจกของขวัญให้แก่ลูกค้า ซึ่งกระทรวงฯ จะยังรณรงค์ให้มีการนำข้าวชนิดอื่นๆ เช่น ข้าวอินทรีย์ ข้าว GI ข้าวสีชนิดต่างๆ เพื่อใช้เป็นของขวัญปีใหม่ด้วย” นางอภิรดีกล่าว
นางอภิรดีกล่าวว่า สำหรับการเพิ่มโอกาสในการขายข้าวให้แก่เกษตรกร กระทรวงฯ ได้ใช้โครงการประชารัฐ โดยร่วมมือกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย คัดเลือกกลุ่มเกษตรกรหรือวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์ จังหวัดละ 1 แห่ง เพื่อสนับสนุนให้มีการแปรรูปข้าวและจำหน่ายข้าวสารคุณภาพดีให้แก่ผู้บริโภคซึ่งจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. - 31 ธ.ค. 2559
ทั้งนี้ ยังได้ร่วมมือกับบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดพื้นที่ให้ชาวนานำข้าวเข้าไปขายในปั๊มน้ำมันที่มีอยู่ทั่วประเทศ และยังจะเข้าไปช่วยกลุ่มสหกรณ์และเครือข่ายชาวนาใน 23 จังหวัดที่มีความพร้อมในการขายข้าว ให้นำข้าวเข้าไปขายในช่องทางออนไลน์ที่กระทรวงฯ ดูแลอยู่ ทั้งใน www.thaitrade.com และ www.thaicommercestore.com ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายข้าวให้แก่เกษตรกรได้เพิ่มขึ้น
ส่วนการขยายตลาดต่างประเทศ กระทรวงฯ มีแผนที่จะจัดโรดโชว์ขายข้าวไทยตั้งแต่เดือน พ.ย.นี้ไปถึงจนไตรมาส 2 ปี 2560 รวม 20 คณะ ทั้งในรูปแบบการขายแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ธุรกิจต่อธุรกิจ (บีทูบี) และธุรกิจถึงผู้บริโภค (บีทูซี) โดยในส่วนของจีทูจี ขณะนี้กำลังเดินทางไปมาเลเซีย ต่อด้วยอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ เพื่อเจรจาขายข้าว และมีแผนไปจีน อิหร่าน อิรัก แอฟริกา ในเดือน ธ.ค. 2559, ก.พ.-เม.ย. 2560 และในส่วนของจีน จะเร่งให้รับมอบข้าวที่เซ็นสัญญาไปแล้ว 1 ล้านตัน ขณะที่ฟิลิปปินส์คาดว่าจะมีความต้องการซื้อข้าว 5 แสนตัน อินโดนีเซีย 6.55 แสนตัน ส่วนอิหร่าน บังกลาเทศ กำลังประสานเจรจา
ทางด้านการขายข้าวในแง่ธุรกิจต่อธุรกิจ วันที่ 14 พ.ย. 2559 ได้เชิญคณะผู้แทนการค้าจากจีน ฮ่องกง อาเซียน สหรัฐฯ แคนาดา และยุโรป เดินทางมาเจรจาการค้าที่ไทย รวมกว่า 200 บริษัท และการขายถึงผู้บริโภค จะจัดกิจกรรมโปรโมตข้าวไทยในประเทศต่างๆ เช่น บริโภคข้าวไทยไร้ Gluten และจะร่วมมือกับห้างเทสโก้ในอังกฤษ จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายข้าวไทย ผ่านสาขาที่มีอยู่กว่า 6,900 สาขาทั่วประเทศ
นางอภิรดีกล่าวว่า ในด้านการดูแลราคาข้าวเปลือกเพิ่มเติม กระทรวงฯ จะจัดตลาดนัดข้าวเปลือกและข้าวสาร ทั้งการค้าขายผ่านช่องทางปกติ และการค้าขายผ่านออนไลน์ โดยกำหนดจัดใน 42 จังหวัด รวม 102 ครั้ง ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนพ.ย.นี้เป็นต้นไปในทุกจังหวัดที่มีข้าวออกสู่ตลาด และยังได้ร่วมมือกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เข้าไปรับซื้อข้าวหอมมะลิจากตลาดจำนวน 2 แสนตัน เพื่อเก็บสต๊อกเป็นเวลา 3 เดือน ขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว และทางสมาคมฯ แจ้งว่าหากซื้อครบตามเป้าหมายแล้วหากมีความจำเป็นก็จะพิจารณาให้สมาชิกซื้อเพิ่มเติม