ผู้จัดการรายวัน 360 - นายกฯเผย นบข.ประชุมนัดพิเศษปรับเพิ่มราคาช่วยเหลือชาวนาผู้ปลูกข้าวหอมมะลิใหม่ จำนำยุ้งฉาง-ขายในตลาด ได้เงินรวมตันละ 1.3 หมื่นบาท เริ่มดำเนินการทันทีถึง 28 ก.พ.60 พร้อมสั่งตรวจทุกโรงสี เช็กข้าวในคลัง ขออย่าเชื่อพวกบิดเบือนทางโซเชียลฯ เดินหน้าสร้างเกษตรเข้มแข็งด้วยตัวเอง ชาวนาขอบคุณรัฐบาลปรับราคาข้าว ปตท.เปิดพื้นที่ขายข้าวในปั๊ม ปตท.ทั่วประเทศ ผบ.ทบ.สั่ง กกล.รส.ลงพื้นที่เช็คข้อมูล “การเมือง-โรงสี” ทุบราคาข้าวตก ใหเทุกหน่วยช่วยชาวนา ซื้อข้าว-เกี่ยวข้าว ระบุส่งทหารคุยโรงสี เชื่อชาวนาไม่รวมตัวเรียกร้อง ดักคอนักการเมืองฉวยโอกาสเคลื่อนไหว รองประธาน สนช.จี้รัฐลงพื้นที่ช่วยชาวนา หวั่นถูกหั่นหัวจากขบวนการกุข่าว
วานนี้ (1 พ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงมาตรการการช่วยเหลือราคาข้าวตกต่ำต่อเกษตรกรชาวนาว่า จากการประชุม คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าว (นบข.) เมื่อวันที่ 31 ต.ค.เป็นการหาข้อมูลชั้นต้น แม้จะมีมติอะไรต่างๆ ออกมาแต่ยังไม่ถือเป็นข้อสรุป โดยตนให้ไปหาข้อมูลมาเพิ่มเติมซึ่งก็ได้ข้อมูลมาแล้ว ก่อนการประชุม ครม.ได้มีการประชุม นบข.นัดพิเศษอีกครั้งหนึ่ง เพื่อนำข้อมูลจากที่ได้ลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งมีมติว่าภาครัฐจะกำหนดมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาข้าวถือเป็นมาตรการใหญ่ ประกอบไปด้วย โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ฤดูกาลผลิต 2559 ถึง 2560 รวมถึงข้าวเปลือกหอมมะลิใหม่ และในส่วนของการรับจำนำยุ้งฉาง เดิมกำหนดราคาจำนำที่ตันละ 8,730 บาท เพิ่มเป็น 9,500 บาท บวกเงินช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพ ตันละ 2,000 บาท จากเดิมตันละ 1,295 บาท และยังได้เงินค่าขึ้นยุ้งและเก็บรักษาอีกตันละ 1,500 บาท ทำให้เกษตรกรได้เงินรวมตันละ 13,000 บาท โดยจะเริ่มโครงการตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย.2559 ถึง 28 ก.พ.2560 คาดว่าจะโดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 22,000 ล้านบาท
“ชาวนาจะได้รับเงินทั้งสิ้น 13,000 บาท วันนี้ต้องเป็นไปตามกฎหมาย มีหลักเกณฑ์ในการคิด ไม่ใช่จะเท่าไรก็ได้ ต้องเอาราคามาเฉลี่ย ซึ่งตอนนี้ราคาเฉลี่ยอยู่ประมาณ 9,700-12,000 บาท เมื่อคิดคำนวนแล้วราคาค่าเฉลี่ยควรจะเป็นตันละ 11,000บาท โดย ธกส.จะรับจำนำตามความเห็นชอบของ ครม.ในวันนี้ 9,500 บาท แต่จะมีเพิ่มเติมช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพให้อีกตันละ 2,000 บาท ค่าขึ้นยุ้งเก็บรักษาตันละ 1,500 บาท รวมเป็น 13,000 บาท เกษตรกรที่ร่วมโครงการแต่ไม่มียุ้งฉาง รัฐบาลจะช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและค่าปรับปรุงคุณภาพโดยโอนเงินเข้าบัญชีตันละ 2,000 บาท แต่จะไม่ได้ค่าขึ้นยุ้งเก็บรักษา หวังว่าพ่อแม่พี่น้องชาวนาคงจะพอใจระดับหนึ่ง และขอให้เห็นใจรัฐบาลบ้าง เพราะช่วงนี้มีความยากลำบากเกิดขึ้นหลายอย่าง ผลกระทบเกิดจากฝนและอะไรต่างๆ” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญเราต้องช่วยกันคิดว่าจะทำงานในภาคการเกษตรต่อไปอย่างไร หากยังทำแบบเดิม ก็จะมีปัญหา ดังนั้นถึงได้บอกว่าเราต้องมาเรียนรู้ด้วยกันและมีศูนย์เกษตรทฤษฎีใหม่ ศูนย์ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รวมถึงศูนย์ปราชญ์ชาวบ้าน ตอนนี้ต้องหาวิธีการปลูกข้าวที่จำนวนไร่น้อยลง แต่ได้ผลผลิตมากกว่าเดิม และต้องดูตารางข้าวโลกในปัจจุบันด้วย อย่ามองแค่ในประเทศอย่างเดียว
** รบ.ไม่ห้ามขายข้าวตามถนน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของโรงสีก็ต้องปรับตัว ทำอย่างไรจะให้เกิดความสุจริต โดยประชาชนต้องได้รับผลประโยชน์มากที่สุด เกษตรกรเองก็ต้องมีเครื่องมือตรวจสอบโดยกระบวนการท้องถิ่น เพื่อช่วยเหลือประชาชน เป็นการวัดความชื้นข้าวของตัวเองก่อนที่จะส่งไปโรงสี หากไม่ตรงกับที่โรงสีวัด จะได้ตรวจสอบได้ ถ้าเราไม่เตรียมการตัวเอง เราก็ต้องยอมรับผลการประเมินของโรงสี โดยที่ผ่านมาไม่มีการตรวจสอบหลังเจ้าของโรงสีประเมินค่าความชื้น จึงสั่งการกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ และ คสช. จะลงไปสำรวจทุกโรงสีว่าสิ่งที่ทำมาทั้งหมดก่อนหน้านี้มีอะไรที่แปลกประหลาดแทรกซ้อนหรือไม่ พร้อมกันนี้จะต้องไปดูคลังข้าว ที่บางโรงสีอาจเก็บข้าวไว้ตามนโยบายรัฐบาลที่ผ่านมา รับค่าข้าวดูแลข้าวมาเยอะ การดูแลจะดีหรือไม่ดีอย่างไร ต้องทำทั้งระบบ เพราะมาตรการอุดหนุนเรื่อยๆ ไม่สามารถสร้างความเข้มแข็งได้ ดังนั้นต้องสร้างความเข้มแข็งให้ได้ ขึ้นอยู่กับสหกรณ์ แกนนำ หมู่บ้าน ต้องร่วมมือกัน อย่าไปเชื่อคำบิดเบือนทางโทรศัพท์ เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่รัฐบาลทำ
“การขายข้าวตามถนน ผมไม่ห้าม หากเป็นรายได้เล็กๆ น้อยๆ แต่ถ้าขายเป็นทางการใหญ่โตเป็นห้างร้านต้องจดทะเบียน ตอนนี้ยังไม่ได้จับกุมดำเนินคดีใดๆ ทั้งสิ้น ถือเป็นการช่วยเหลือตัวเอง อย่าไปโทษกันไปมา ต่อไปหากไม่มีโรงสีหรือพ่อค้าข้าวเลยก็ไม่ได้ รวมถึงพ่อค้ารายใหญ่ เพราะทั้งหมดเป็นห่วงโซ่เดียวกัน แต่ทำอย่างไรให้ทุกคนอยู่ในกติกาให้ได้ โดยใช้กฎหมายที่มีอยู่ทุกตัวก็จะไม่มีปัญหา ตรงนี้เป็นทางเลือกให้ประชาชนว่าจะขายเองหรือจะขายให้ประชารัฐ หรือจะขายให้บริษัทใหญ่ รัฐบาลนี้มีหน้าที่สร้างทางเลือกให้ประชาชนเข้มแข็งด้วยตัวเขาเอง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
** ชาวนาขอบคุณรัฐบาล
แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการโรงสีข้าวในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระบุว่า ราคารับจำนำข้าวเปลือกหอมมะลิในยุ้งฉางที่ตันละ 9,500 บาท เป็นราคาที่เหมาะสม ไม่สูงและไม่ต่ำเกินไป ตลาดรับได้ เพราะเมื่อทอนมาเป็นข้าวสารส่งออกจะไม่ต่ำกว่าตันละ 650 เหรียญสหรัฐ ซึ่งสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ เพราะข้าวไทยคุณภาพดีกว่า และเป็นที่ต้องการของตลาด ส่วนเกษตรกรที่ขายข้าวในตลาด หากชะลอการเก็บเกี่ยวและตากข้าวให้แห้ง ก็จะขายได้ราคาดี และยังได้เงินช่วยเหลือจากรัฐอีกตันละ 2,000 บาท
ด้าน นายสุเทพ คงมาก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวว่า ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิในตลาดจะปรับเพิ่มขึ้นตามราคาที่ นบข. อนุมัติเพิ่มที่ตันละ 11,000 บาท ซึ่งสามารถใช้เป็นราคาอ้างอิงให้ชาวนาทั่วไปในการนำข้าวไปขายในท้องตลาด แต่การกำหนดราคาก่อนหน้านี้ที่เฉลี่ยตันละ 9,500 บาท จะทำให้ราคาตลาดยิ่งลดต่ำลงไปอีก ซึ่งต้องขอบคุณรัฐบาลที่ปรับปรุงมติใหม่ ทำให้แนวโน้มราคาจากนี้จะดีขึ้น แม้ชาวนาจะไม่ร่วมโครงการรับจำนำยุ้งฉาง แต่ก็จะขายข้าวได้ได้ราคาดี โดยต้องขอขอบคุณรัฐบาลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เห็นใจชาวนา ทั้งนี้ ราคาข้าวหอมมะลิ ถือเป็นราคาที่จะช่วยชี้นำราคาข้าวชนิดอื่นๆ หากราคาข้าวหอมมะลิปรับตัวดีขึ้น เชื่อว่าจากนี้ไป ราคาข้าวเปลือกเจ้าที่ปัจจุบันเฉลี่ยที่ตันละ 7,700-8,000 บาท ความชื้น 15% จะมีแนวโน้มดีขึ้น โดยราคาข้าวเปลือกเจ้าที่ชาวนาต้องการ คือ ตันละ 8,000 บาท
** ปตท.เปิดพื้นที่ขายข้าวในปั๊มทั่ว ปท.
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่ม ปตท. พร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐ ช่วยแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ จัด "โครงการรวมพลังซื้อข้าวจากชาวนา" ในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ที่ร่วมโครงการทั่วประเทศ โดยให้เกษตรกรสามารถนำข้าวสารมาจำหน่ายแก่ผู้บริโภคได้โดยตรงโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อให้เกษตรกรและประชาชนสามารถซื้อขายข้าวสารได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยเกษตรกร ตัวแทนกลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ชุมชม โรงสีข้าวชุมชน หรือโรงสีข้าวสหกรณ์ สามารถติดต่อเพื่อนำข้าวสารมาวางจำหน่ายที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท. ในพื้นที่ของตนเอง นอกจากนี้ ปตท. จะเพิ่มช่องทางอื่นๆ โดยจะประสานกับเครือข่ายทางธุรกิจและเกษตรกรเพื่อนำข้าวสารมาจำหน่วยในบริเวณอาคาร ปตท. สำนักงานใหญ่ และอาคาร เอเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ ถนนวิภาวดี ให้แก่พนักงาน ปตท. และบริษัทในกลุ่ม รวมทั้งข้าราชการในกระทรวงพลังงาน ตลอดจนผู้มาติดต่อทั่วไป
“ปตท. ยังมีแผนรับซื้อข้าวสารจากชาวนาเพื่อมามอบแทนของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของชาวนาโดยตรงอีกทางหนึ่งด้วย" นายเทวินทร์ ระบุ
** ศธ.ให้ รร.ช่วยซื้อข้าวจากชาวนา
นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ได้มอบหมายให้ตนทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังสถานศึกษาในสังกัดทั่วประเทศตลอดจนครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้ช่วยสนับสนุนซื้อข้าวจากชาวนาในราคาที่เหมาะสม เพื่อช่วยเหลือชาวนาในสถานการณ์ที่ราคาข้าวตกต่ำ โดยจัดซื้อเป็นข้าวสาร ข้าวเปลือก หรือข้าวซ้อมมือก็ได้ แต่อย่างไรก็ตามในส่วนของโรงเรียนที่มีงบประมาณโครงการอาหารกลางวันอยู่ ก็ให้ประสานความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เพื่อให้ช่วยสนับสนุนด้วย
** ผบ.ทบ.ให้ทหารช่วยเกี่ยวข้าวลดต้นทุน
ที่ศูนย์ไซเบอร์กองทัพบก (ศซบ.ทบ.) กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก และเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนชาวนาจากราคาข้าวตกต่ำว่า เนื่องจากมีข้อมูลข่าวสารเข้ามาว่ามีการเมืองและผู้ประกอบการโรงสีร่วมมือกันทำให้ราคาข้าวตกต่ำ จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าจริงหรือไม่อย่างไร และให้รายงานเข้ามา ในส่วนของผู้ประกอบการคือโรงสีที่มองเห็นแต่ผลประโยชน์ส่วนตัวหรือมีเงื่อนไขอื่นๆแอบแฝงก็ให้ไปทำความเข้าใจและขอร้องกัน อีกส่วนหนึ่งที่กองทัพบกกำลังดำเนินการ คือช่วยรับซื้อข้าวสารจากโรงสีของสหกรณ์การเกษตร ในการบริโภค และการประกอบเลี้ยง
“เรามีกำลังพลพอมีเวลาอยู่ ก็จะออกไปช่วยชาวนาเก็บเกี่ยวข้าว โดยเฉพาะชาวนาที่ประสบปัญหาการเก็บเกี่ยว ต้องมีค่าแรงค่าใช้จ่าย เราจะลงไปช่วย ซึ่งกองทัพบกเองพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้วิถีชีวิตของพี่น้องชาวนาดีขึ้นในกรอบที่สามารถทำได้ ตรงไหนมีปัญหาให้เข้าไปหาหน่วยทหารได้ ทุกพื้นที่มีหน่วยทหารรับผิดชอบพื้นที่อยู่แล้ว พร้อมให้ความช่วยเหลือ” พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว
** ฮึ่มนักการเมืองฉวยโอกาส
เมื่อถามว่า ห่วงหรือไม่ หากชาวนาได้รับความเดือนร้อนมากๆจะก่อให้เกิดเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า ไม่น่าจะมี นโยบายรัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหาให้ชาวนาได้เป็นช่วงๆไป และในสถานการณ์ปัจจุบันเราอยู่ในสถานการณ์พิเศษ ทุกคนควรจะช่วยกัน ตนเชื่อว่าปัญหาเรื่องความเดือดร้อน เราเต็มที่ในการให้ความช่วยเหลือ
“เชื่อว่าไม่มีการเมืองเข้าเกี่ยวข้อง แต่อาจจะมีในระดับท้องถิ่นที่มีผลประโยชน์ส่วนตัว ในเวลานี้เราขอความร่วมมือร่วมใจกัน ปัจจุบันเราก็มีเสื้อสีเดียวกันคือสีดำ เราต้องพาประเทศชาติให้ผ่านวิกฤติไปได้ อะไรที่เป็นเรื่องที่รัฐบาลดำเนินการแก้ไขอยู่แล้ว ขอให้ใจเย็น ส่วนที่มีนักการเมืองใช้โอกาสชาวนาเดือดร้อนจากราคาข้าวตกต่ำมาเคลื่อนไหวนั้น เป็นจิตสำนึกแต่ละคน เราอยู่ในสถานการณ์พิเศษและต้องร่วมมือร่วมใจกัน” พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว.
** พบขบวนการกดราคาข้าวที่พิจิตร
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่ามีนักการเมืองรู้เห็นกับโรงสีข้าวร่วมมือกันเพื่อกดราคาข้าวเปลือกหอมมะลิชาวนาว่า ตามปกติข้าวหอมมะลิจะออกในเดือน ต.ค. 10 เปอร์เซ็นต์ เดือน พ.ย. 80 เปอร์เซ็นต์ และในเดือน ธ.ค.อีก 10 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นเรื่องข้าวส่วนใหญ่ยังไม่ออกมา เหตุใดจึงมีข่าวราคาข้าวตกต่ำออกมาก่อน จึงทำให้ดูมีความสอดคล้องว่ามีกระบวนการที่ต้องการทำให้สังคมเกิดความสับสน และพยายามจะทำให้เห็นว่าวันนี้รัฐบาลแก้ปัญหาไม่ถูกจุด โดยพยายามทำให้เห็นว่าการแก้อย่างถูกต้องนั้น คือการเอาเงินไปให้ชาวนา นอกจากนั้นยังมีการสร้างเพจปลอมเรื่องการขายข้าว ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดทั้งสอดคล้องกันเพื่อให้เห็นว่าต้องการทำลายความน่าเชื่อถือรัฐบาล และนายกฯสั่งการให้ฝ่ายความมั่นลงไปตรวจสอบว่ามีกระบวนการใดทำให้ราคาข้าวตกต่ำ เกิดจากปัจจัยอะไร ซึ่งเบื้องต้นอาจจะยังไม่พบเป็นตัวบุคคล แต่เท่าที่ทราบเหตุการณ์นี้พบในพื้นที่ จ.พิจิตร
** "บิ๊กป้อม" รับมีข่าวชาวนาจ่อเคลื่อนไหว
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวชาวนาออกมาเคลื่อนไหวกดดันราคาข้าวว่า อาจมีบ้าง แต่ยังไม่ชัดเจน แต่ตนไม่อยากให้รวมตัวกัน เพราะรวมตัวไม่ได้ ซึ่งขณะนี้มาตรการการช่วยเหลือก็ออกมาชัดเจนผ่าน ครม. จึงขอยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีชาวนาออกมาเคลื่อนไหว มีเพียงแต่ข่าว เพราะตอนนี้รัฐบาลกำลังแก้ปัญหาอยู่และทำตลอด อย่างไรก็ตามยังเชื่อว่าประเด็นเรื่องข้าวจะไม่กลายเป็นเรื่องการเมือง เพราะรัฐบาลได้แก้ปัญหาแล้ว
พล.อ.ประวิตร กล่าวชี้แจงกรณีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวที่ระบุว่า พล.อ.ประวิตร ไล่ชาวนาให้ไปขายปุ๋ยแทนข้าวว่า เป็นการพูดเล่นกับสื่อมวลชนบางคน แต่สื่อมวลชนกลับไปเขียนเลอะเทอะไปหมด เป็นการคุยเล่นหลังให้สัมภาษณ์เสร็จ ซึ่งในความเป็นจริงไม่มีปุ๋ยที่ไหนจะราคาแพงกว่าข้าวได้
** “พีระศักดิ์” แฉขบวนการกุข่าวข้าวระบาด
อีกด้าน นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 2 เปิดเผยว่า จากการที่ตนนำทีมงานลงพื้นที่ตามโครงการ สนช.พบประชาชน พบว่าปัญหาราคาข้าวมีผลกระทบไปทั่วเพราะราคาต่ำมาก จากที่สอบถามพวกพ่อค้าคนกลาง และบรรดาโรงสี บอกว่าไม่อยากจะรับซื้อข้าวเปลือกเจ้า ไปซื้อข้าวหอมมะลิเก็บตุนไว้ยังจะดีกว่า รัฐบาลจึงต้องหาทางแก้จุดนี้ ส่วนตัว ตนว่ามาตรการที่รัฐออกมาช่วยชาวนาเริ่มเห็นผลในหลายเรื่อง แต่กระแสอื่นๆ ที่ได้ยินมาเรื่องปลุกปั่นมีเหมือนกัน เช่น กลุ่มการเมืองที่มาแหย่ มาปั่นในกลุ่มชาวบ้านก็มี เขาจะพยายามรวมตัวชาวนาให้ได้
“นอกจากออกนโยบายช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว รัฐต้องรีบลงมาไวๆ ให้ทั่วถึงทุกพื้นที่ เรื่องการข่าวอย่าให้พวกฉวยโอกาสทางการเมืองเข้ามาปลุกระดม กระแสข่าวนี้ได้ยินมาค่อนข้างแน่ โดยเฉพาะภาคกลาง กับภาคเหนือตอนล่าง ขอให้รีบลงมาหาชาวนาโดยด่วน” นายพีระศักดิ์ กล่าว.