กาฬสินธุ์วอนสร้างยุ้งฉางให้เกษตรกรเก็บข้าวแก้ปัญหาราคาตกระยะยาว(ชมคลิป)

กาฬสินธุ์ - ชาวนากาฬสินธุ์วอนรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ก่อนที่ผลผลิตข้าวเหนียวและข้าวเจ้า 105 กว่า 5.2 แสนตันจะออกสู่ท้องตลาด พร้อมแนะสร้างยุ้งฉางให้เกษตรกรเก็บข้าว ไม่ให้ทะลักขายพร้อมกันแก้ไขปัญหาราคาตกต่ำระยะยาว



วันนี้ (1 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการซื้อขายข้าวในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ หลังเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยว พบว่ามีเกษตรกรเริ่มนำผลผลิตข้าวเปลือกออกมาขายบ้างแล้ว แต่ข้าวที่นำมาขายส่วนใหญ่จะเป็นข้าวเปลือกหอมมะลิ กข 15 เนื่องจากข้าวดังกล่าวนั้นมีอายุสั้นหรือเป็นข้าวเบา จึงออกผลผลิตเร็วกว่าชนิดอื่น ทั้งนี้แม้ราคาข้าวในขณะนี้จะมีราคาตกต่ำเฉลี่ยกิโลกรัมละ 5-6.50 บาท แต่เกษตรกรจำเป็นต้องนำข้าวเปลือกออกมาขาย

เนื่องจากต้องการนำเงินไปใช้หนี้ที่กู้ยืมมาลงทุนทำนา จึงเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาและหาแนวทางช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ก่อนที่ผลผลิตข้าวเปลือกเหนียวและข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลิ 105 ซึ่งเกษตรกรในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ปลูกจำนวนมากกว่า 520,000 ตันจะออกสู่ท้องตลาด

นายธนาพล ธรรมโนขจิต ผู้จัดการตลาดกลางข้าวและพืชไร่ จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า สำหรับการซื้อขายข้าวของพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ขณะนี้เกษตรกรจะนำข้าวเปลือกหอมมะลิ กข 15 ออกขายก่อน โดยราคารับซื้อจะใกล้เคียงกัน แต่ในส่วนตลาดกลางกาฬสินธุ์รับซื้อกิโลกรัมละ 6-6.50 บาท ความชื้นไม่เกิน 30% ทั้งนี้ ข้าวหอมมะลิ กข 15 ของพื้นที่กาฬสินธุ์มีไม่มาก เพราะปีฤดูกาลผลิต 2559/2560 จะเป็นข้าวเหนียวและข้าวเจ้าหอมมะลิ 105 จึงไม่กระทบมากนักหากเทียบกับจังหวัดอื่นๆ ในช่วงนี้

ทั้งนี้ คาดว่าเกษตรกรจะนำผลิตผลข้าวทั้งสองชนิดออกมาขายในสัปดาห์หน้า ส่วนราคานั้นก็ขึ้นอยู่กับตลาด

นายธนาพลกล่าอีกว่า ส่วนโครงการจำนำยุ้งฉางของรัฐบาลที่กำลังจะดำเนินการเชื่อว่าน่าจะแก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำได้ในระดับหนึ่ง แต่การจำนำยุ้งฉางจะต้องไม่ให้ผ่านโรงสีหรือนักการเมือง เพื่อตัดความเสี่ยงการทุจริตออกไป โดยให้เกษตรกรเป็นคนจำนำโดยตรงแก่ ธ.ก.ส. สำหรับการแก้ไขปัญหาระยะยาวนั้นรัฐบาลควรที่จะส่งเสริมหรือสนับสนุน โดยการจัดสรรงบประมาณหรือปล่อยสินเชื่อเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อให้เกษตรกรกู้ แล้วมาสร้างยุ้งฉางเป็นของตนเองไว้เก็บข้าวหลังเก็บเกี่ยวเสร็จทุกคน

โดยรัฐจะต้องมีการออกแบบยุ้งฉางป้องกันความชื้นเหมือนกับยุ้งฉางสมัยก่อนเพื่อเก็บข้าวไว้ไม่ให้ข้าวทะลักออกมาขายพร้อมกันจนราคาตกต่ำเหมือนในขณะนี้ ซึ่งหากเก็บไว้ในยุ้งฉางแล้วมีการจำนำยุ้งฉาง เกษตรกรพอใจในราคาเมื่อไหร่ก็ค่อยนำออกมาขาย ซึ่งจะทำให้ราคาข้าวดีขึ้นเพราะไม่ล้นตลาด และยังเป็นการต่อรองระหว่างเกษตรกรกับเจ้าของโรงสีอีกด้วย

ด้านนายสุพิน ราชโคตร อายุ 56 ปี ชาวนาบ้านโคกใหญ่ ต.หัวนาคำ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนอยากให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาราคาข้าวสูงขึ้นกว่านี้ เพราะราคาข้าวในขณะนี้มีราคาที่ต่ำมากตั้งแต่ทำนามาไม่เคยตกต่ำมาก่อน โดยราคาอยู่เพียงแค่กิโลกรัมละไม่เกิน 6 บาทเท่านั้น

ตนอยากให้ราคาข้าวอยู่ที่กิโลกรัมละ 9-10 บาท หรือสูงกว่านั้น เพราะต้นทุนของเกษตรกร ทั้งค่ารถเกี่ยวข้าวก็ไร่ละ 600 บาท ค่ารถขนข้าวก็เที่ยวละ 500 บาท

ส่วนค่าปุ๋ย ค่าแรง ยังไม่คิดถึง ปีนี้ถือว่าทำนาขาดทุน ทั้งนี้ตนคิดว่าการเก็บข้าวในยุ้งฉางไว้เป็นแนวทางที่ดี เพราะเราเก็บไว้ได้จนกว่าราคาดีค่อยนำออกมาขาย แต่ยังไม่สามารถทำได้เพราะสถานที่ไม่เพียงพอ อีกทั้งต้องหาเงินมาจ่ายค่ารถเกี่ยวข้าวเพราะไม่มีเงินทุน ทำให้ต้องแบกรับภาระจึงอยากให้ทางรัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือชาวนาด้วย ก่อนที่ผลผลิตข้าวเปลือกเหนียวและข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลิ 105

ซึ่งเกษตรกรในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ปลูกจำนวนมากกว่า 520,000 ตันจะออกสู่ท้องตลาด เพราะหากปล่อยให้ราคาข้าวตกต่ำเช่นนี้ชาวนาก็จะเป็นหนี้เป็นสินกันเป็นจำนวนมากเพราะทำนาขาดทุนย่อยยับแน่นอน