ปตท.เตรียมออกมาตรการห้ามกรรมการและผู้บริหารระดับสูงบริษัทฯ ซื้อขายหุ้นบริษัทในเครือ ปตท.ช่วงนอกเวลาห้ามซื้อขาย (silent period) เพื่อความโปร่งใสและเลี่ยงเข้าข่ายการใช้ข้อมูลมาใช้ (Insider Trading) แนะให้ลงทุนผ่านกองทุนรวมแทน
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวภายในการจัดกิจกรรม PTT Group CG Day ประจำปี 2016 ภายใต้แนวคิด See Through The Future ว่า ปตท.เตรียมออกมาตรการแนวทางปฏิบัติให้กรรมการและผู้บริหารระดับสูงของกลุ่ม ปตท. เพื่อหลีกเลี่ยงการซื้อขายหุ้นบริษัทในกลุ่ม ปตท.ในช่วงนอกระยะเวลาการห้ามซื้อขายหุ้น (silent period) สร้างความโปร่งใสและเลี่ยงข้อครหาการใช้ข้อมูลภายในมาซื้อขายหุ้น (Insider Trading) หรือหากจะลงทุนก็ให้ลงทุนผ่านกองทุนรวมฯ ก็ทำได้
ทั้งนี้ หากกรรมการและผู้บริหารบริษัทในเครือกลุ่ม ปตท.มีจำเป็นต้องซื้อขายหุ้นก็สามารถทำได้ โดยแสดงเจตนารมณ์ในการซื้อขายหุ้นล่วงหน้าต่อเลขานุการบริษัทฯ ซึ่งถือเป็น 1 ใน 4 มาตรการที่กลุ่ม ปตท.ใช้ขับเคลื่อนองค์กรอย่างโปร่งใสภายใต้หลักธรรมาภิบาล ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน
ที่ผ่านมา ปตท.ได้กำหนดช่วงระยะเวลาห้ามซื้อขายหุ้นของกรรมการและผู้บริหารระดับสูงอยู่แล้วในช่วงก่อนการประกาศผลการดำเนินงานในแต่ละไตรมาส แต่เป็นการห้ามการซื้อขายหุ้นเป็นช่วงๆเวลาเท่านั้น ขณะนี้ได้มอบหมายให้แต่ละบริษัทไปหารือรายละเอียดเพื่อเสนอคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติและนำไปปฏิบัติ โดย ปตท.จะมีการเสนอคณะกรรมการบริษัทพิจารณาอนุมัติในเดือน พ.ย.นี้ แล้วผลมีบังคับใช้ทันที
นอกจากนี้ยังมีมาตรการที่ประกาศใช้แล้ว คือ การไม่ให้ไม่รับของขวัญ ที่นำมาใช้ตั้งแต่ปี 2558 และปีนี้จะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น, การทำข้อตกลงคุณธรรม สำหรับโครงการจัดซื้อจัดจ้างขนาดใหญ่ ซึ่งจะเชิญองค์กรอิสระเข้ามารว่มสังเกตการณ์การจัดซื้อจัดจ้าง, การเข้าเป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (CAC) ซึ่งปัจจุบันบริษัทในกลุ่ม ปตท.เข้าร่วมเป็นสมาชิก CAC หมดแล้ว เว้น บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ และจะเชิญชวนคู่ค้า ผู้รับเหมา ผู้ค้าน้ำมันเข้าร่วมเป็นสมาชิก CAC ด้วย
นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. กล่าวว่า เราเชื่อมั่นว่าการบริหารจัดการธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี มีจริยธรรม และความโปร่งใสจะเป็นปัจจัยสำคัญในการนำพาองค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน รวมทั้งสร้างความน่าเชื่อถือและมูลค่าระยะยาวให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม