“ส.อ.ท.” เตรียมผลักดัน 20 อุตสาหกรรมก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 สนองนโยบายรัฐเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นำนวัตกรรม ระบบไอทีบริหารจัดการองค์กรทุกระดับ กังวล SMEs ยังไม่ยอมปรับตัวอนาคตจะลำบาก ขณะที่มองหุ่นยนต์ยังทดแทนคนไม่ได้มาก แต่ระบบไอทีต่างๆ ก็จะกระทบแรงงานโดยเฉพาะ 3 อาชีพ จี้รัฐปรับระบบการศึกษารองรับด้วย
นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ส.อ.ท.ได้กำหนดเป้าหมายที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมให้ก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 ในระยะยาวโดยได้คัดเลือกอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มจะดำเนินงานได้ทันทีประมาณ 20 อุตสาหกรรม เช่น ยานยนต์และชิ้นส่วน ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือแพทย์ ปิโตรเคมีและพลาสติกขั้นสูง เป็นต้น โดยจะนำนวัตกรรมมาต่อยอดให้มากขึ้น โดยคาดหวังว่าจะเร่งดำเนินการให้เป็นรูปธรรมเร็วสุดภายใน 5-10 ปี
“การก้าวไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 คือ การนำเทคโนโลยีดิจิตอลและอินเทอร์เน็ตมาใช้ในกระบวนการผลิต การค้าขาย ทุกขั้นตอนก็คงไม่ง่ายนักที่จะทำได้ในระยะสั้นคงต้องมองอุตสาหกรรมที่มีนวัตกรรมอยู่แล้ว คืออยู่ประมาณอุตสาหกรรม 3.0 ซึ่งก็มีไม่มากนักและคงจะมองเป็นส่วนๆ จะใช้หุ่นยนต์ทั้งหมดเป็นไปได้ยากแม้แต่ยานยนต์ยังมีการใช้หุ่นยนต์ในการผลิตเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น โดยระยะแรกจะต้องมองไปที่การใช้ระบบไอทีการบริหารในองค์กรให้ได้ก่อนจึงจะก้าวไปสู่ 4.0 ได้” นายวัลลภกล่าว
ปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมของไทยส่วนใหญ่ยังเป็นอุตสาหกรรม 2.0-3.0 ที่ยังเป็นระบบการผลิตดั้งเดิมและการผลิตที่อาศัยพลังงานไฟฟ้ายังไม่มีระบบไอทีใดๆ มากนักเพราะส่วนหนึ่งยังเป็นการรับจ้างผลิต โดยเฉพาะผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (SMEs) ของไทยเองที่ยังไม่ค่อยปรับตัว โดยเรื่องนี้มีความสำคัญที่ผู้ประกอบการเองจะต้องพร้อมจะปรับตัวด้วย ไม่เช่นนั้นอนาคตก็จะแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ไม่ได้
นอกจากนี้ การก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 ในแง่ของผลกระทบต่อแรงงานนั้นการที่หลายฝ่ายมองว่าหุ่นยนต์จะแทนที่คนมากขึ้นในอนาคตก็อาจจะมีบ้าง แต่ภาพรวมคงจะไม่มากแต่ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยเปลี่ยนไปมากกว่าที่จะกระทบให้แรงงานต้องปรับตัวเองและรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาต้องชี้แนะและหาทางรับมือด้วยโดยอาชีพที่จะกระทบอย่างเห็นได้ชัดมี 3 อาชีพ ได้แก่ 1. สื่อสารมวลชน ที่ระบบดิจิตอล ไอที อินเทอร์เน็ตจะเข้ามามีบทบาทการใช้คนจะลดลงในอนาคต 2. ธนาคาร เนื่องจากระบบไอทีที่ทันสมัยธนาคารจะลดการขยายสาขาเพราะใช้ระบบอินเทอร์เน็ตแบงกิ้งแทน 3. นักบัญชี เนื่องจากจะมีระบบไอทีและระบบบริหารจัดการเข้ามาแทนที่
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย กล่าวว่า การก้าวไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 ต้องใช้เวลานับสิบๆ ปีแต่ถึงทีสุดก็จำเป็นต้องค่อยๆปรับโดยเฉพาะเมื่อไทยจะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุในอีก 10-20 ปีข้างหน้าซึ่งเรื่องนี้เห็นว่าการวางแผนจะต้องมองในภาพรวมทั้งหมดไม่เพียงภาคการผลิต แต่ต้องมองทุกภาคส่วนและรวมถึงการศึกษาที่จะมีส่วนสำคัญทำอย่างไรให้แรงงานเมื่อจบการศึกษาสามารถป้อนเข้าสู่ภาคการผลิตได้โดยอนาคตอาชีพที่จะเข้ามามีบทบาทมากยังคงเป็นสายวิชาชีพทั้ง ทั้งช่างกล ช่างไฟ วิศวกรไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ เป็นต้น
