รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย เผยปัญหาหนี้ไม่ก่อรายได้ ภาคเอสเอ็มอียังคงเพิ่มขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง เหตุเพราะยอดขายในประเทศและต่างประเทศยังหดตัวจากปัญหาหนี้ครัวเรือน และเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัว
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย เปิดเผยว่า จากปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ในภาคธุรกิจ โดยเฉพาะขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) มีการขยายตัวมากขึ้นจากผลกระทบทางเศรษฐกิจโดยมีสาเหตุสืบเนื่องมาจากลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้า ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่เป็นการจัดซื้อวัตถุดิบ และสินค้าสำเร็จรูป และไม่ยอมจ่ายเงินเมื่อถึงกำหนดสัญญาที่ทำไว้ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการขาดสภาพคล่อง เพราะยอดขายที่ลดต่ำลงทั้งยอดขายในประเทศและยอดขายไปต่างประเทศ
สำหรับอัตราการใช้กำลังการผลิตของภาคอุตสาหกรรมไทยปัจจุบัน เฉลี่ยอยู่ที่ 65% เพราะธุรกิจยังได้รับผลกระทบจากภาวะการส่งออกที่ติดลบมาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าปีนี้ (2559) จะยังคงติดลบ 1-2% ซึ่งจะถือเป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 จากภาวะเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัวมากนัก
อย่างไรก็ตาม ตลาดในประเทศยังคงได้รับผลกระทบจากแรงซื้อของคนไทยยังไม่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในอัตราสูงถึง 11 ล้านล้านบาท ขณะเดียวกันยังเจอปัญหาจากภาวะภัยแล้งและราคาสินค้าเกษตรส่งออกตกต่ำ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทำให้รายได้เกษตรกรลดลงในช่วงครึ่งปีแรก ดังนั้นภาพรวมแรงซื้อของคนไทยจึงไม่ขยับขึ้น และประชาชนบางส่วนพึ่งพิงเงินกู้นอกระบบที่คิดดอกเบี้ยสูง 20-30% ซึ่งแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ บางส่วนจึงต้องนำเงินไปใช้กับการช่วยเหลือ ผู้ที่เป็นหนี้นอกระบบก่อน ทำให้ไม่สามารถนำเงินมาหมุนเวียนใช้กับการเพิ่มหรือกระตุ้นการบริโภคในช่วงนี้ได้
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *
