กบร.ปรับเกณฑ์ใบอนุญาตบิน เข้มผู้ถือหุ้นไทย “ปลอดนอมินี” สวมสิทธิ์

กบร.อนุมัติปรับเกณฑ์เงื่อนไขออกใบอนุญาตประกอบการค้าขายสายการบิน (AOL) ใหม่ เข้มตรวจผู้ถือหุ้นล้วงลึกแก้ปัญหานอมินีสวมสิทธิ์คนไทย ทุน 200 ล้าน พร้อมแบงก์การันตี 5% มีประกันภัยตาม ICAO กำหนด เตรียมออกประกาศเริ่มใช้ ต.ค.นี้

นายจุฬา สุขมานพ อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) และรักษาการ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ที่มีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเมื่อวันที่ 20 ก.ย. มีมติเห็นชอบประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการออกใบอนุญาต ให้ประกอบกิจการค้าขายในการเดินอากาศ (Air Operator License : AOL) ใหม่ ซึ่งมีการปรับหลักเกณฑ์เงื่อนไขใหม่เพื่อความโปร่งใส จากเดิมที่เงื่อนไขเหล่านี้จะเขียนไว้ท้ายใบอนุญาตของแต่ละราย โดยประกาศนี้จะรวมเงื่อนไขต่างๆ มารวมไว้ด้วยกันเพื่อให้รับทราบตรงกัน สำหรับการขอ AOL ว่าจะต้องจัดเตรียมความพร้อมอย่างไรบ้าง พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องโดยมี ผอ.กพท.เป็นประธานเพื่อกลั่นกรองเรื่องให้ความเห็นก่อนเสนอ รมว.คมนาคมลงนามออก AOL  

ทั้งนี้ ในการออก AOL ในเงื่อนไขสัดส่วนผู้ถือหุ้นนิติบุคคลไทย 51 ต่างชาติ 49 เหมือนเดิม โดยจะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบรายละเอียดผู้ถือหุ้นในนิติบุคคลไทย 51% เพื่อไม่ให้มีนอมินี เนื่องจากมีการร้องเรียนมาก โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1. ใบอนุญาตสำหรับการบินแบบประจำ (มีตารางบินแน่นอน) ปรับทุนจดทะเบียนชำระแล้ว เป็น 200 ล้านบาท จากเดิมที่ไม่มีการกำหนดทุนจดทะเบียน โดยจะต้องมีหนังสือสัญญาค้ำประกัน (แบงก์การันตี) 5% ของทุนจดทะเบียน, กำหนดให้ทำประกันภัยให้ครอบคลุมตามที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) กำหนด พร้อมทั้งเพิ่มเติมเรื่องการกำหนดอายุเครื่องบินกรณีบรรทุกผู้โดยสารต้องมีอายุไม่เกิน 16 ปี (จากอายุข้อกำหนดเดิม14 ปี) โดยนับจากการจดทะเบียนครั้งแรกในประเทศไทย ส่วนเครื่องบินบรรทุกสินค้า (คาร์โก้) กำหนดอายุไม่เกิน 18 ปี (จากอายุตามเดิม 14 ปี) โดยในการประกอบการจะต้องมีเครื่องบินไม่น้อยกว่า 2 ลำ ทั้งนี้ AOL จะมีอายุ 5 ปี

2. ใบอนุญาตสำหรับการบินแบบไม่ประจำ (เช่าเหมาลำ) ทุนจดทะเบียน 25 ล้านบาท มีแบงก์การันตี 5% โดย AOL มีอายุ 5 ปี และ 3. ใบอนุญาตสำหรับประกอบกิจการพาณิชย์อื่นๆ ด้วยอากาศยานขนาดเล็ก เฮลิคอปเตอร์, โดรน, การบินเพื่อท่องเที่ยว บอลลูน ซึ่งเป็นการกำหนดแยกประเภทใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับธุรกิจทางการบินที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน โดย AOL มีอายุ 3 ปี

โดยหลังจากนี้ รมว.คมนาคมจะลงนามออกเป็นข้อบังคับ กบร.ก่อนจึงจะมีผลบังคับใช้ คาดว่าภายในเดือน ต.ค.นี้ โดยจะมีผลต่อสายการบินที่ขอจดทะเบียนใหม่ และที่ AOL หมดอายุ ส่วนที่ AOL ยังไม่หมดอายุ ยังดำเนินการได้เพราะกฎหมายจะไม่มีผลย้อนหลัง
 
“เงื่อนไขเรื่องแบงก์การันตีเดิมไม่มี ปรับใหม่กำหนด ไว้ 5% ของทุน เพื่อกรณีกิจการล้ม จะมีวงเงินไว้ชดเชยค่าเสียหายได้ ส่วนการตรวจสอบรายละเอียดผู้ถือหุ้นไทย 51% จะลงลึกไปถึงอำนาจในการบริหาร การออกเสียงที่แท้จริง เช่น กรณีเป็นไทย 51% แต่อาจจะเป็นการรวมคนไทย 2 คนซึ่งเมื่อกระจายหุ้นออกมาแล้วคนไทยมีหุ้นคนละ 25% ขณะที่ต่างชาติถือ 49% เท่ากับต่างชาติมีสิทธิในการออกเสียงมากกว่าคนไทยแบบนี้ไม่ได้” นายจุฬากล่าว

นอกจากนี้ กบร.ยังเห็นชอบแก้ไขข้อบังคับ กบร. การกำหนดอายุสูงสุดของพนักงานควบคุมการจราจรทางอากาศ (ATC) จากเดิมไม่เกิน 60 ปี เป็นไม่เกิน 63 ปี ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับกรณีที่มีการได้เสนอขอใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของร่างรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนนักบิน โดยให้สามารถรับนักบินที่อายุเกิน 60 ปี หรือที่เกษียณอายุไปแล้ว สามารถปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานราชการ หรือรัฐวิสาหกิจได้ และครอบคลุมไปถึงครูการบินด้วย

ไฟเขียว ทอท.เพิ่มค่าจอดแก้ปัญหาเครื่องบินจอดแช่ค้างคืนนาน

นายจุฬากล่าวว่า กบร.เห็นชอบตามที่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เสนอขอปรับปรุงค่าบริการที่เก็บอากาศยานเป็นอัตราก้าวหน้า กรณีอากาศยานจอดค้างเป็นเวลานานทำให้มีปัญหาในการบริหารจัดการหลุมจอดให้สายการบิน โดยเฉพาะสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง โดยปัจจุบัน ทอท.เรียกเก็บตามน้ำหนัก เริ่มต้นที่ 880 บาทต่อวัน และเพิ่มตามน้ำหนักสูงสุดไม่เกิน 910 บาทต่อวัน เป็นอัตราก้าวหน้า กรณีจอดเกิน 15 วัน คิดค่าบริการเพิ่มเป็น 2 เท่า จอดตั้งแต่ 15-21 วัน คิดค่าบริการเพิ่มเป็น 3 เท่า จอดตั้งแต่ 22-28 วัน คิดค่าบริการเพิ่มเป็น 4 เท่าทั้งนี้ ค่าบริการสูงสุดที่วันละ 10,000 บาท ซึ่งข้อบังคับนี้จะประกาศได้ภายในเดือน ต.ค.นี้ และจะครอบคลุมสนามบินของ ทอท.ทุกแห่ง และสนามบินของกรมท่าอากาศยานด้วย
 
ทั้งนี้ ได้เห็นชอบหลักการตามที่ ทอท.เสนอเรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อยในเขตท่าอากาศยาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ ทอท.ที่ได้รับแต่งตั้งสามารถดำเนินการจัดการได้ เป็นการเพิ่มอำนาจทางกฎหมาย ส่วนการดำเนินคดีทางกฎหมายจะยังเป็นหน้าที่ของตำรวจ โดยจะต้องเสนอขอให้ รมว.คมนาคมออกประกาศในแต่ละท่าอากาศยาน โดยให้นำร่างนี้ผนวกไว้ในการปรับปรุง พ.ร.บ.การเดินอากาศ พ.ศ. 2497