สมาคมชิ้นส่วนยานยนต์นัดหารือ 28 ก.ย. รับมือนโยบายรัฐบาลเร่งเครื่องรถยนต์ EV เผยหากทำเร็วใน 5 ปีเจ๊งแน่ๆ เผยก้าวไปสู่รถ EV ไทยได้อะไรมีแต่เสีย ทั้งชิ้นส่วนฯ ไทยเดี้ยง อู่ซ่อมรถตาย รัฐเสียรายได้ ขณะที่ทั่วโลกเทคโนโลยียังไม่หยุดนิ่งการส่งสัญญาณทำให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนและรถยนต์ชะลอลงทุนใหม่แล้ว แนะให้เป็นกลไกของผู้บริโภคจะดีกว่า
นายประสาทศิลป์ อ่อนอรรถ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) และอดีตนายกสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย เปิดเผยว่า วันที่ 28 ก.ย.นี้สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยาน ยนต์ไทยจะหารือถึงนโยบายรัฐบาลที่ต้องการผลักดันให้เกิดอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ภายในประเทศว่าจะมีผลกระทบต่อผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศมากน้อยเพียงใด เพื่อที่จะสรุปข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีการพัฒนาไปในทิศทางที่เกิดประโยชน์ต่อภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนฯอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ความเห็นส่วนตัวมองว่าหากรัฐบาลเร่งผลักดันให้เกิดอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมภายใน 5 ปีข้างหน้าถือว่าเร็วเกินไป เชื่อว่าผู้ผลิตชิ้นส่วนในไทยจะไม่สามารถประกอบกิจการได้ต่อไปไม่น้อยกว่า 50% เนื่องจากผู้ผลิตส่วนใหญ่ของไทยเทคโนโลยียังไปไม่ถึง และจะเป็นการเปิดทางให้กับผู้ผลิตชิ้นส่วนต่างประเทศเข้ามาแทนที่ ดังนั้นมองว่าหากรัฐจะส่งเสริมฯ ควรจะกำหนดระยะเวลาใน 15 ปีเพื่อให้ผู้ผลิตของไทยมีการปรับตัว
นายธิบดี หาญประเสริฐ อุปนายกสมาคมวิศวกรรมยานยนต์ไทยและที่ปรึกษาสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยกล่าวว่า การส่งเสริมรถยนต์ EV รัฐกำลังส่งสัญญาณแบบผิดๆ เพราะขณะนี้เทคโนโลยีโลกยังไม่นิ่งควรมองว่าไทยจะได้ประโยชน์อะไร เพราะขณะนี้ทั่วโลกรถ EV จำหน่ายไม่ได้มากแม้กระทั่งญี่ปุ่นยังลดลง แต่เทรนด์ที่ไปข้างหน้าคือรถยนต์ไฮบริด(Hybrid) และ Fuel Cell ที่เป็นไฮโดรเจนมากกว่าจะเป็น EV ขณะที่หัวใจของการพัฒนารถยนต์ EV จะอยู่ที่แบตเตอรี่ ระบบคอนโทรล สมองกล ซึ่งผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยก็ก้าวไม่ถึง ขณะที่ชิ้นส่วนอื่นๆ ไทยก็ผลิตได้อยู่แล้ว ดังนั้นรัฐไม่ต้องทำอะไรควรปล่อยให้เป็นกลไกของผู้บริโภคจะดีที่สุดถ้าอะไรดีและถูกการลงทุนจะมาเอง
“ผมมองในแง่ว่าไทยได้อะไร เพราะที่สุดเราก็เป็นผู้ใช้อยู่ดีเพราะเราไม่ใช่เจ้าของเทคโนโลยี และถ้าหากเดินหน้าไปอะไรจะเกิดขึ้น ไหนจะในแง่ภาษีต่างๆ การที่เราไปลดภาษีสรรพสามิตรถ EV แล้วในแง่ของการใช้ไฟฟ้าภาษีนำมันก็จะหายไปอีกได้คำนึงหรือไม่ว่ารายได้รัฐจะหายไปมาก ประชาชนรู้หรือไม่ว่ารถ EV มูลค่าของรถมือสองคือเวลาซื้อแล้วขายมูลค่าลดลงไปมากแทบไม่เหลือเงินเก็บไว้ดาวน์รถใหม่ต่อเลย เช่นเดียวกับอู่ซ่อมรถนับหมื่นๆ แห่งจะเจ๊งหมด ขณะนี้ผู้ผลิตชิ้นส่วนและอุตสาหกรรมยานยนต์ได้หยุดขยายการลงทุนใหม่แล้วเพื่อรอดูนโยบายของรัฐบาลให้แน่ใจว่าจะไปทิศใดแน่เพราะเขาก็รอเลือกตั้งก่อน” นายธิบดีกล่าว
นายธิบดีกล่าวว่า รถ EV ขณะนี้มองว่าเป็นของเล่นของคนรวยเท่านั้นและอนาคตก็ไม่ใช่คำตอบ นอกจากนี้หลายหน่วยงานยังมีการส่งสัญญาณถึงรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ซึ่งสิ่งนี้จะยิ่งไปกันใหญ่เพราะหายนะจะเกิดแก่คนจนเนื่องเพราะการซ่อมรถ EV ไม่ว่าจะรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์อู่ต่างๆ เองก็ยังไม่พร้อมต้องส่งปรับแรงงานให้สอดรับด้วยได้มีการคิดหรือไม่ และที่สำคัญเวลาจะขายต่อจะเหลือราคาต่ำมากหรือแทบไม่มีราคาเงินในกระเป๋า คนมีรายได้น้อยจะยิ่งน้อยไปอีก
