“สมคิด” กระตุ้น ทอท.เร่งลงทุนยกระดับสนามบิน ดันสุวรรณภูมิฮับภูมิภาค มั่นใจประเทศไทยก้าวพ้นจุดอันตรายที่เศรษฐกิจทรุดตัวแล้ว ขอความร่วมมือรัฐ-เอกชนเพื่อเติบโตก้าวกระโดด ย้ำอีก 1 ปีจะทำงานใหญ่เพื่อวางรากฐานประเทศ อัดข้อมูลโซเชียลฯ บิดเบือนเรื่องเศรษฐกิจแย่ ชี้เอาของเก่ามาตัดต่อผสมทำให้เสียหาย วอนยุติ หันมาร่วมมือพัฒนาประเทศ
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยในการเป็นประธานลงนามในสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปี 2554-2560) ว่าการที่ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ทั้งการค้า การลงทุนการท่องเที่ยวได้นั้น จะต้องมีการพัฒนายกระดับสนามบินของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. โดยเฉพาะสุวรรณภูมิให้เป็นศูนย์กลางการบิน (ฮับ) ในภูมิภาคอาเซียน พร้อมกับการพัฒนาสนามบินดอนเมืองเป็นฮับภายในประเทศ รวมถึงพัฒนาสนามบินเชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต หาดใหญ่ ยกระดับสนามบินอู่ตะเภาเป็นเชิงพาณิชย์ ซึ่งเมื่อปริมาณการค้าการลงทุนเพิ่มการท่องเที่ยวจะขยายตัวตาม ดังนั้นสนามบินจะต้องสามารถรองรับได้
ส่วนการที่ภาคเอกชนอย่างกลุ่มแอร์เอเชียจะมาร่วมพัฒนาสนามบินด้วยนั้น นายสมคิดกล่าวว่า ไม่ใช่แค่แอร์เอเชียกลุ่มเดียว เอกชนใดสนใจไม่มีปิดกั้นซึ่ง ทอท.จะพิจารณาอีกที ส่วนการลงนามสัญญาก่อสร้างขยายสุวรรณภูมินั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการลงทุนภาครัฐที่จะทยอยตามมาอีก ซึ่งต้องขอความร่วมมือภาคเอกชนโดยเฉพาะบริษัทใหญ่ๆ ที่ต้องกล้ามุ่งไปข้างหน้าด้วยตัวเอง โดยเดินไปในทิศทางที่สอดรับกับนโยบายรัฐบาล แม้ว่าการส่งออกระยะสั้นจะยังไม่ดีขึ้นแน่นอน แต่เมื่อมีความมั่นใจ มีความร่วมมือ ทุกอย่างจะเป็นไปตามเป้าหมาย
“ภายในปี 2560 โครงการใดที่สามารถเริ่มได้ให้ ทอท.เร่งทำทันที ไม่ให้ทำงานเรื่อยๆ แบบราชการเดิมๆ อีกต่อไป เวลานี้หน่วยงานรัฐจะต้องทำงานเข้มข้นกว่าเอกชน เพื่อพลิกโฉมประเทศ ปี 2560 จะทำเรื่องใหญ่ๆ เพราะมีเวลาอีกไม่มาก เช่น EEC, กระทรวงการคลัง, กระทรวงไอซีที, สนามบิน, รถไฟ, ท่าเรือ เป้าหมายเพื่อยกระดับรายได้ชุมชน ยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ และทำเพื่อสังคมให้มากที่สุด จากที่ช่วงปกติจะทำได้ยาก ก่อนจะหมดหน้าที่และเชื่อว่าจะไม่มีอะไรมาหยุดยั้งประเทศไทยได้”
นายสมคิดกล่าวถึงกรณีที่มีการส่งข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่าเศรษฐกิจของไทยแย่ว่า รู้สึกไม่สบายใจ เพราะข้อความดังกล่าวอ้างจาก IMF ซึ่งระบุเมื่อ 3-4 ปีที่แล้วว่าโลกกำลังแย่ ไทยก็แย่ โดยมีการเพิ่มเติมความเห็นลงไปอีกว่าเศรษฐกิจไม่ดี ต้องมีการแปรรูป และนำคลิปที่ตนเคยพูดเมื่อ-3-4 ปีที่แล้วที่เตือนรัฐบาลขณะนั้นว่าจะต้องบริหารจัดการให้ถูกต้องประเทศดีได้ นำมาผสมรวมกัน และทำออกมาเผยแพร่ใหม่ ซึ่งทำแบบนี้ไม่มีประโยชน์และไม่มีผลใดๆ แถมยังเป็นการกระทำผิด ไม่รับผิดชอบต่อบ้านเมือง อยากให้มาร่วมมือกันทำงาน นอกจากนี้ต้องเปลี่ยนวิธีการบริหารจัดการ เพื่อการเติบโตอย่างก้าวกระโดด
“ครบ 1 ปีที่ได้เข้ามาทำงาน ตอนนั้นภาวะเศรษฐกิจของไทยน่าเป็นห่วง ผมและทีมได้ทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจทรุดต่ำลง มีการปฏิรูปเศรษฐกิจในทุกมิติ ถึงวันนี้มีความเชื่อว่าเราได้ก้าวพ้นจุดอันตรายที่เศรษฐกิจทรุดตัวแล้ว แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะยังไม่ฟื้นตัวก็ได้ แต่ไทยได้พิสูจน์ว่ามีศักยภาพเพียงพอ ด้วยการทำงานอย่างเต็มที่ แก้ไขได้ถูกจุดทำให้เศรษฐกิจยืนได้โดยไม่พึ่งการส่งออกเพียงอย่างเดียว ทุกฝ่ายร่วมมือกัน และต้องไม่ประมาท และไม่ทะเลาะกัน ประเทศเทกออฟแน่นอน โดยสิ่งที่ต้องใน 1 ปีข้างหน้า คือการวางรากฐานประเทศ และส่งไม้ต่อผู้ที่เข้ามารับช่วงต่อไป” นายสมคิดกล่าว