“สนามบินสุวรรณภูมิ” แจงฝนถล่มช่วงหัวค่ำคืนวันที่ 24 ส.ค.ทำน้ำท่วมขังถนนหน้าอาคารผู้โดยสารชั้น 1 รถแท็กซี่เข้ารับผู้โดยสารไม่ได้ และมีกระแสไฟฟ้าขัดข้องทำให้กระทบในอาคารผู้โดยสาร เกิดไฟกะพริบ โดยต้องใช้ไฟสำรองและมีเที่ยวบินล่าช้า 9 เที่ยวบิน ต้องไปลงที่อู่ตะเภา และภูเก็ตแทน แนะผู้โดยสารมาก่อนเวลา 3 ชม.
นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล รวมถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.ของวันที่ 24 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมขังบริเวณถนนด้านหน้าอาคารผู้โดยสารชั้น 1 เนื่องจากบริเวณนั้นเป็นพื้นที่ต่ำกว่าบริเวณโดยรอบ ทำให้รถแท็กซี่ที่ให้บริการภายในไม่สามารถเข้ามารับผู้โดยสารได้ในช่วงระหว่างเวลา 22.30-24.45 น. ซึ่ง ได้แก้ไขสถานการณ์โดยประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารขาเข้าไปใช้บริการรถแท็กซี่สาธารณะบริเวณถนนด้านนอกหน้าชานชาลาอาคารผู้โดยสารชั้น 4 แทน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก และแจ้งให้รถแท็กซี่ที่ลงทะเบียนไว้กับ ทสภ.เปลี่ยนจุดขึ้นไปให้บริการที่ชั้น 4 เป็นการชั่วคราวจำนวน 130 คัน และประสานรถแท็กซี่อีกจำนวนหนึ่งจากภายนอกที่มาส่งผู้โดยสาร ณ ทสภ.คอยให้บริการ ณ จุดดังกล่าวด้วย ซึ่ง ทสภ.ได้ดำเนินการระบายน้ำที่ท่วมขัง ณ บริเวณชั้น 1 เรียบร้อยแล้ว และสามารถให้บริการรถแท็กซี่ที่ชั้น 1 ได้ตามปกติภายในคืนเดียวกัน
นอกจากนี้ ในช่วงเวลาประมาณ 22.20 น.ของคืนวันที่ 24 สิงหาคม 2559 ยังได้เกิดกรณีกระแสไฟฟ้าที่สถานีจ่ายไฟฟ้าอ่อนนุช แหล่งจ่ายกระแสไฟฟ้าหลักเกิดขัดข้องทำให้ต้องสลับมาใช้กระแสไฟฟ้าจากสถานีหนองจอกทดแทน เป็นเหตุให้ภายในอาคารผู้โดยสารเกิดไฟกะพริบเป็นเวลา 0.25 วินาที และระบบไฟฟ้าสำรองได้ทำงานทันที แต่อย่างไรก็ตาม มีระบบไฟฟ้าของอุปกรณ์ย่อยในบางพื้นที่ต้องมีการตั้งค่าใหม่ด้วยระบบ Manual เพื่อให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ อาทิ ระบบสายพานลำเลียง พื้นที่ร้านค้าบางส่วน เป็นต้น ซึ่งได้มีการดำเนินการแก้ไขในทันที โดยระบบต่างๆ สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติภายใน 1 ชั่วโมง
ทั้งนี้ จากกรณีที่มีฝนตกหนักในช่วงเวลาดังกล่าวส่งผลให้มีเที่ยวบินเปลี่ยนไปลงจอดที่ท่าอากาศยานสำรอง (Divert) ที่ท่าอากาศยานอู่ตะเภา จำนวน 8 เที่ยวบิน และท่าอากาศยานภูเก็ต จำนวน 1 เที่ยวบิน
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ารถแท็กซี่ที่ให้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมิปฏิเสธรับผู้โดยสารชาวไทยในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด หากเป็นรถแท็กซี่ที่ขึ้นทะเบียนไว้จะดำเนินการเรียกผู้ขับขี่มาดำเนินการสอบสวนและลงโทษต่อไป อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝนซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการจราจร ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการพลาดเที่ยวบินจึงขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาสำหรับการเดินทางมายังท่าอากาศยานประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนเที่ยวบินออก และสามารถเลือกเดินทางโดยรถขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟฟ้า Airport Rail Link รถไฟฟ้า BTS และรถไฟฟ้า MRT ซึ่งจะได้รับความสะดวกมากกว่า ทั้งนี้ ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ AOT Contact Center หมายเลขโทรศัพท์ 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง