จับตาผลประชุมคณะกรรมการไตรภาคี ล่าสุดศึกษาแผนของคณะอนุกรรมการ 3 ชุดแม้มีความคืบหน้าไปพอสมควรแต่ยังมีบางประเด็นที่ยังต้องศึกษาเพิ่ม แนวโน้มส่อเลื่อนการพิจารณาออกไปอีก 1-2 เดือนก่อนสรุปเสนอรัฐบาลต่อไป
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการเพื่อศึกษาการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการไตรภาคีฯ ที่มี พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ เป็นประธาน เมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการรายงานความคืบหน้าการทำงานของคณะอนุกรรมการทั้ง 3 ชุดซึ่งมีความคืบหน้าไปพอสมควรและมีความเข้าใจของแต่ละฝ่ายไปในทิศทางที่ดีขึ้นแต่ยังมีบางประเด็นที่ต้องศึกษาเพิ่มเติมอีก ดังนั้น กรอบทำงานของคณะกรรมการไตรภาคีซึ่งใกล้จะครบ 8 เดือนตามกำหนดภายใน ส.ค.นี้มีแนวโน้มความเป็นไปได้สูงที่จะต้องเลื่อนผลสรุปออกไปอีก 1-2 เดือนก่อนที่จะเสนอความเห็นต่อรัฐบาลได้
สำหรับความคืบหน้าของคณะอนุกรรมการฯ 3 ชุดที่ได้รายงานต่อที่ประชุมนั้น ได้แก่ 1. คณะอนุกรรมการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งประเด็นผลกระทบท่องเที่ยวซึ่งเป็นที่สนใจจากนักวิชาการและภาคประชาชน รวมไปถึงการประกอบอาชีพประมง ป่าชายเลน มีการเปิดโอกาสให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และบริษัทที่ปรึกษา กับฝ่ายนักวิชาการและประชาชนได้พูดคุยกันในข้อสงสัย โดยผลสรุปไม่ได้ระบุไปว่าอะไรผิดอะไรถูก แต่จะเป็นการนำเสนอข้อเท็จจริงมากกว่า
2. คณะอนุกรรมการศึกษาการใช้พลังงานทดแทนหรือพลังงานทางเลือกของจังหวัด กำหนดประเด็นการศึกษาไว้ 3 เรื่อง คือ 1. สนับสนุนให้มีการศึกษาวิจัยให้เกิดพลังงานทดแทนในพื้นที่ และความพร้อมของระบบสายส่ง 2. การส่งเสริมให้มีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) 1,000 เมกะวัตต์ จะเกิดขึ้นได้แค่ไหน 3. ความจำเป็นที่ต้องมีเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้า
3. คณะอนุกรรมการประสานงานเพื่อติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาโรงไฟฟ้าถ่านหินนั้นยังต้องรอผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการชุดที่กล่าวมาก่อน เพื่อนำไปเปิดรับฟังความเห็นภาคส่วนต่างๆ