บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ เซ็นสัญญาก่อสร้างแบบรับเหมาเบ็ดเสร็จ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Farm) พร้อมกัน 2 โครงการ มูลค่า 520 ล้านบาท ส่งผลให้มีงานมูลค่างานในมือกว่า 1,600 ล้านบาท เดินหน้ารับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือกเต็มสูบ มั่นใจด้วยศักภาพแกร่งและประสบการณ์ยาวนานทำให้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า
นายโชติก รัศมีทินกรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTW เปิดเผยถึงงานโครงการใหม่ที่เพิ่งเซ็นสัญญาไปว่า บริษัท เบสท์เทค แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทแกนของบีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ ได้เซ็นสัญญางานก่อสร้างแบบรับเหมาเบ็ดเสร็จ (Turnkey) เพื่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (solar farm) พร้อมกัน 2 โรง คือ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ สหกรณ์การเกษตรเมืองตราด จังหวัดตราด และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ สหกรณ์การเกษตรบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งโครงการละ 5 เมกะวัตต์ จำนวน 2 โครงการ รวม 10 เมกะวัตต์ รวมมูลค่างานทั้ง 2 โครงการ 520 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินงานประมาณ 6 เดือน นับเป็นงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบรับเหมาเบ็ดเสร็จทั้งโรงเป็นครั้งแรก ภายหลังจากที่กลุ่มบริษัทฯ ได้ดำเนินการศึกษา และพัฒนาระบบงานติตตั้งแผงโซลาร์เซลล์ และการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มาอย่างต่อเนื่อง”
นายโชติก กล่าวต่อว่า “การชนะประมูลงานในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของกลุ่มบริษัทฯ ในการเป็นผู้รับเหมาหลัก (EPC Contractor) สำหรับงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบเบ็ดเสร็จ โดยเบสท์เทค แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง ซึ่งเป็นบริษัทแกน มีประสบการณ์ในการก่อสร้างงานโรงไฟฟ้าร่วม 30 ปี และมีบุคลากรที่มีประสบการณ์พร้อมเครื่องจักรอันทันสมัย คาดว่าในอนาคตกลุ่มบริษัทฯ จะขยายงานรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือกทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ ชีวมวล และชีวภาพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน มีแผนที่จะเปิดประมูลโครงการสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในปีนี้อีกกว่า 500 เมกะวัตต์ โดย กลุ่มบริษัท BTW มีความพร้อมทุกๆ ด้านที่จะเข้าประมูลงาน”
สำหรับไตรมาส 1 ซึ่งสิ้นสุดรอบบัญชี ณ วันที่ 31 มีนาคม 2559 กลุ่มบริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินงานมูลค่ารวม 1,866.1 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่างานที่ยังไม่รับรู้รายได้รวมประมาณ 1,166.7 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งโครงการที่ดำเนินงานต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2558 และที่เพิ่งเริ่มโครงการในไตรมาสแรกของปีนี้ เมื่อรวมกับงานโครงการใหม่ทั้ง 2 โครงการ กลุ่มบริษัทฯ จะมีมูลค่างานที่ยังไม่รับรู้รายได้รวม 1,686.7 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้ใน 3 ปีข้างหน้า ตั้งแต่ปี 59-60 ผลงานของบริษัทจะเติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี โดยการเติบโตส่วนใหญ่จะมาจากงานในต่างประเทศ เนื่องจากงานในประเทศค่อนข้างจะเต็มแล้ว แต่โอกาสงานต่างประเทศยังมีอีกมาก ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจที่บริษัทมองว่า ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และยังอยู่ระหว่างเจรจากับผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าที่มีสัญญาขายไฟฟ้า (PPA) อยู่ในมือเรียบร้อยแล้ว เพื่อเข้าร่วมทุนในโรงไฟฟ้าไบโอแมส ขนาดกำลังการผลิต 10 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในภาคใต้ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่สามารถเปิดเผยถึงรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมได้ เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษา และเจรจา
บริษัท บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น หรือ Holding Company โดยมีบริษัท เบสท์เทค แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เป็นบริษัทแกน ประกอบธุรกิจให้บริการแปรรูปผลิตภัณฑ์ และโครงสร้างเหล็ก หรือ Steel Fabrication ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติร่วม 30 ปี