ผู้ถือหุ้น “เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี” ใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนครบ 100% และเตรียมแปลงวอร์แรนต์ PSTC-W1 ตุนเงิน 1,100 ล้านบาท หลังมั่นใจแผนดำเนินงานรุกขยายธุรกิจพลังงานทางเลือก หวังชิงส่วนแบ่งอุตสาหกรรมโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือกมูลค่าแสนล้าน เล็งซื้อกิจการ และประมูลโครงการจากภาครัฐ เสริมพอร์ตธุรกิจให้ได้ 100 MW ภายใน 3 ปี จากเป้าหมายเดิม 22.7 MW มั่นใจสถานะการเงินแข็งแกร่งหลังเพิ่มทุน กด D/E ต่ำเหลือ 0.25 เท่า เปิดเพดานสามารถขยายการลงทุนในอนาคตได้อีก 3-5 พันล้านบาท
นายพระนาย กังวาลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี หรือ PSTC ผู้ออกแบบ จำหน่าย และติดตั้งระบบจ่ายไฟฟ้าและตรวจวัดจัดการสภาพแวดล้อม รวมถึงผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานทางเลือกที่ครอบคลุมทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานชีวภาพ พลังงานชีวมวล พลังงานลม และพลังงานขยะ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จต่อการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน และคาดว่าจะมีการใช้สิทธิแปลงใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์) PSTC-W1 ได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากผู้ถือหุ้นให้ความเชื่อมั่นต่อทิศทางดำเนินงานของบริษัทฯ จึงได้ใช้สิทธิเพิ่มทุนมากกว่าจำนวนหุ้นที่เสนอขาย
โดยคาดว่าจะสามารถระดมทุนได้ประมาณ 1,100 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินจากขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 880 ล้านบาท และการใช้สิทธิแปลงวอร์แรนต์ PSTC-W1 ในอนาคตอีก 220 ล้านบาท และเมื่อรวมกับเงินลงทุนเดิมที่ PSTC จัดเตรียมไว้อีก 120 ล้านบาท จึงทำให้ PSTC มีศักยภาพ และความพร้อมด้านเงินทุนเพื่อรุกขยายธุรกิจพลังงานทางเลือกได้ทุกรูปแบบ
สำหรับแผนดำเนินธุรกิจของ PSTC ต่อจากนี้จะเร่งรุกธุรกิจพลังงานทางเลือกในทุกๆ ด้าน เพื่อชิงส่วนแบ่งอุตสาหกรรมโรงไฟฟ้าจากพลังงานทางเลือกที่มีมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายขยายพอร์ตธุรกิจพลังงานทางเลือกให้ได้ 100 MW ภายใน 3 ปี จากเดิม 22.7 MW ซึ่งรูปแบบการลงทุนนั้นมีทั้งการเข้าไปซื้อกิจการ การเข้าร่วมประมูลงานโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือกทุกรูปแบบจากหน่วยงานภาครัฐ
“เราประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นรายเดิม (RO) ที่ผู้ถือหุ้นใช้สิทธิ และเกินสิทธิมากกว่าจำนวนหุ้นที่ออกในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้ถือหุ้นที่มีต่อทิศทางการดำเนินงานของ PSTC ต่อแผนการรุกขยายธุรกิจพลังงานทางเลือกในทุกๆ ด้านอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทขอขอบคุณผู้ถือหุ้นทุกท่านที่ใช้สิทธิเพิ่มทุนจนสามารถเพิ่มทุนได้ครบตามเป้าหมายที่วางไว้ บริษัทจะเร่งดำเนินการเพื่อผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ต่อไป” นายพระนาย กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PSTC กล่าวว่า จากฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นหลังเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทฯ ทำให้บริษัทฯ มีสินทรัพย์เกือบ 2,000 ล้านบาท โดยมีหนี้สินต่อทุน หรือ D/E เหลือเพียง 0.25 เท่า ส่งผลให้ PSTC มีขีดความสามารถในด้านขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานทางเลือกได้อีกมาก หรือคิดเป็นมูลค่าการลงทุนประมาณ 3,000-5,000 ล้านบาท เพื่อให้ได้ตามเป้าหมายที่ PSTC ได้วางแผนไว้
ขณะที่ปี 2559 นี้ PSTC คาดว่าผลการดำเนินงานจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากบริษัทฯ มีมูลค่างานในมือกว่า 500 ล้านบาท และจากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือกที่จะทยอยจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ได้รวมอีก 7 MW เข้ามาช่วยหนุนผลประกอบการในปีนี้ นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่บริษัทฯ อยู่ระหว่างดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมและขยะ หรือจะเป็นโครงการโซล่าร์ฟาร์มส่วนราชการและสหกรณ์ ที่ PSTC คาดว่าจะได้รับใบอนุญาตอีกจำนวนหนึ่ง จะเข้ามาช่วยสร้างความเข้มแข็งในด้านผลการดำเนินงานได้ดีต่อไปในอนาคตอีกด้วย
ด้านบทวิเคราะห์ของ บล.โนมูระ ได้ประเมินมูลค่าพื้นฐานโครงการในอนาคต จึงแนะนำซื้อที่ราคาเป้าหมาย 0.63 บาทต่อหุ้น โดยปัจจุบันถือว่ายังมี upside ที่ดี หลังราคาหุ้นที่ผ่านมาได้ปรับตัวลดลงตอบรับประเด็นเพิ่มทุนไปแล้ว จะทำให้ราคาหุ้นฟื้นตัวในช่วงถัดไปจากการนำเงินทุนไปต่อยอดธุรกิจให้เติบโตได้ในระยะยาว