นายกฯ สั่ง “อาคม” ทำแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษสงขลาและนราธิวาส เร่งรถไฟทางคู่ ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี, สุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา, หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ และพัฒนาสนามบินภูมิภาค 28 แห่งใน Action Plan ปี 60
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า หลังจากลงพื้นที่ภาคใต้ที่จังหวัดนราธิวาสเมื่อวันที่ 25 ก.ค. และมีการประชุมร่วมกับภาคเอกชน ซึ่งมีการเสนอหลายเรื่อง โดยที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงคมนาคมนั้นมีทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมจัดทำแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมสำหรับ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จ.สงขลา, จ.ยะลา, จ.สตูล, จ.ปัตตานี และ จ.นราธิวาส โดยจะนำโครงการบรรจุอยู่ในแผนปฏิบัติการคมนาคมปี 2560
ประกอบด้วย ขนส่งทางราง ได้แก่ โครงการรถไฟทางคู่ ช่วง ชุมพร-สุราษฎร์ธานี, ช่วงสุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา, ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ซึ่งจะเพิ่มเป็นระบบรถไฟฟ้าด้วย เพื่อต่อเชื่อมกับรถไฟมาเลเซียที่มีทางคู่รางขนาด 1 เมตร และรถไฟเป็นไฟฟ้า
ส่วนทางอากาศนั้น กรมท่าอากาศยาน (ทย.) อยู่ระหว่างปรับปรุงท่าอากาศยานนราธิวาส ซึ่งได้มอบหมายให้ ทย.ทำแผนปรับปรุงและพัฒนาท่าอากาศยานภูมิภาคทั้ง 28 แห่งเสนอมายังกระทรวงคมนาคม โดยบางท่าอากาศยานจะมีการปรับปรุง แก้ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ แต่มีบางท่าอากาศยานที่มีความแออัด จะต้องมีแผนพัฒนาขยายขีดความสามารถ ทั้งขยายรันเวย์และอาคารผู้โดยสาร โดยจะนำแผนพัฒนาท่าอากาศยานภูมิภาคทั้ง 28 แห่งบรรจุอยู่ในแผนปฏิบัติการคมนาคมปี 2560 เช่นกัน
ส่วนขนส่งทางน้ำ มีการพัฒนาท่าเรือปัตตานี ซึ่งเป็นข้อเสนอของภาคเอกชนและจังหวัด ซึ่งเดิมเป็นท่าเรือประมง แต่มีพื้นที่ที่สามารถนำมาพัฒนาเพิ่มเพื่อรองรับเรือสินค้าชายฝั่ง ขนาด 500 ตันกรอส โดยกระทรวงจะเร่งศึกษาและเสนอการลงทุนและพัฒนาต่อไป และท่าเรือสงขลา 2 ซึ่งขณะนี้การศึกษาเสร็จแล้ว ออกแบบเป็น 2 ท่าเรือคู่ขนานกัน โดยท่าแรกจะมี 1 เทอร์มินัล และท่าที่ 2 มี 2 เทอร์มินัล ซึ่งอยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงการคลังในการดำเนินการก่อสร้าง
“เป้าหมายในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมนั้นเพื่อรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งภาคใต้มีที่สงขลาและนราธิวาส เดิมการพัฒนาเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษอยู่แล้ว โดยจะเร่งสรุปเพื่อนำเสนอรองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ต่อไป”