ร.ฟ.ท.ยันประมูลรถไฟทางคู่ (ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย) 2 สัญญา เตรียมเสนอ คตร.ยืนยันตามเดิมหลัง คตร.แนะให้รวมเป็นสัญญาเดียวเหตุเชื่อราคาจะถูกลง ชี้หากแก้เหลือสัญญาเดียวต้องเสนอ ครม.และทำราคากลางใหม่ เสี่ยงแพงขึ้นมากกว่าถูกลง “ออมสิน” เชื่อเดินหน้าเปิดอี-ออกชันใน 2-3 เดือนนี้
นายประเสริฐ อัตตะนันทน์ รักษาการผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ได้ส่งหนังสือถึง ร.ฟ.ท.ว่าควรปรับการประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย วงเงิน 11,348.35 ล้านบาทจาก 2 สัญญา รวมเป็นสัญญาเดียว โดยเชื่อว่าจะทำให้วงเงินค่าก่อสร้างต่ำลง ซึ่งเมื่อวันที่ 19
สิงหาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท. ที่นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ เป็นประธาน ได้หารือถึงประเด็นดังกล่าวและมีความเห็นยืนยันให้ประกวดราคาโดยแยกเป็น 2 สัญญาตามเดิม เนื่องจากเห็นว่าการปรับเหลือ 1 สัญญาจะทำให้เกิดความล่าช้า เพราะต้องเริ่มขั้นตอนการประกวดราคาและเปิดขายเอกสารใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่การเสนอเรื่องไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาปรับเปลี่ยนเหลือ 1 สัญญา และต้องปรับปรุงร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) และจัดทำราคากลางใหม่ เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบที่ต้องกำหนดราคากลาง ก่อนประกาศร่าง TOR 28 วัน ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะทำให้ค่าก่อสร้างสูงขึ้นจากวงเงินเดิมที่ตั้งไว้เมื่อ 2 ปีแล้วที่ 11,348.35 ล้านบาท
ทั้งนี้ ครม.มีมติเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2555 อนุมัติให้เปิดประกวดราคา 2 สัญญา โดยงานสัญญาที่ 1 คืองานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย และช่วงบุใหญ่-แก่งคอย พร้อมทางคู่เลี่ยงเมือง (Chord Lines) 3 แห่ง วงเงิน 10,727 ล้านบาท และสัญญาที่ 2 ทางคู่และทางรถไฟช่วงสถานีวิหารแดง-สถานีบุใหญ่ ระยะทาง 9 กิโลเมตร อุโมงค์ 1.2 กิโลเมตร วงเงิน 621 ล้านบาท
“ตามหลักการรวมสัญญาเดียวจะทำให้ค่าก่อสร้างถูกลงจริง แต่ในขณะเดียวกันต้องมองในมุมว่าโครงการนี้เดินหน้ามาระยะหนึ่งแล้ว โดย ครม.อนุมัติเปิดประมูล 2 สัญญา ถ้าจะปรับเป็นสัญญาเดียวต้องเสนอ ครม.ใหม่ ประเด็นสำคัญคือ ต้องปรับ TOR ทำราคากลางใหม่ ซึ่งต้องทำให้อัปเดตจึงไม่รู้ว่าจะแพงกว่านี้หรือไม่ บอร์ดจึงยืนยันที่จะเดินหน้าการประมูลแบบ 2 สัญญาต่อไป และจะเสนอไปยัง คตร.อีกครั้ง ซึ่งเป็นการทักท้วงตามสิทธิ์หน่วยงานเจ้าของโครงการ” นายประเสริฐกล่าว
ด้านนายออมสินกล่าวว่า ประมาณ 2-3 เดือนจากนี้จะสามารถเปิดแข่งขันเสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ (อี-ออกชัน) งานสัญญาที่ 1 ได้ หลังจากเลื่อนการเสนอราคามาแล้ว 3 รอบแล้ว โดยรอบแรก คือเลื่อนจากวันที่ 9 มิถุนายน 2557 เป็นวันที่ 23 มิถุนายน 2557 เนื่องจากบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนขอให้ ร.ฟ.ท.ตรวจสอบการจดทะเบียนตั้งกลุ่มกิจการร่วมค้าระหว่าง บริษัท ทิพากร จำกัด ร่วมกับ บริษัท ไชน่าฮาร์เบอร์ จากประเทศจีน เพราะอาจไม่ถูกกฎหมาย และ ร.ฟ.ท.ได้ดำเนินการตรวจสอบแล้วพบว่าการจดทะเบียนถูกต้อง กลุ่มดังกล่าวจึงมีสิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันราคาได้ รอบที่ 2 เลื่อนจากวันที่ 23 มิถุนายน 2557 เป็นวันที่ 15 กรกฎาคม 2557 เนื่องจาก คตร.ขอตรวจสอบทุกโครงการที่มีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาทและยังมิได้ลงนามในสัญญาจ้าง รอบที่ 3 คือเลื่อนจากวันที่ 15 กรกฎาคม 2557 ออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพราะ คตร.ยังตรวจสอบไม่เสร็จสิ้น
ทั้งนี้ ผู้รับเหมาที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติและเตรียมแข่งเสนอราคาอี-ออกชันโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย สัญญาที่ 1 มี 6 ราย ประกอบด้วย 1. ITD 2. บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ร่วมกับบริษัท ช.ทวีก่อสร้าง จำกัด 3. บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC 4. บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่งแอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ 5. บริษัท ทิพากร จำกัด ร่วมกับ บริษัท ไชน่าฮาร์เบอร์ จากประเทศจีน และ 6. บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964) จำกัด