“พาณิชย์” คลอดยุทธศาสตร์พัฒนาเกษตรอินทรีย์ 5 ปีแล้ว มุ่งพัฒนาสินค้าและบริการอินทรีย์ป้อนความต้องการของตลาดโลก หวังชิงส่วนแบ่งตลาดอินทรีย์โลกที่มีอยู่มากถึง 2.3 ล้านล้านบาท เตรียมแผนให้ความรู้เกษตรกร ยกระดับให้ได้มาตรฐาน เพิ่มช่องทางขายทั้งในและต่างประเทศ และพัฒนาสินค้าให้หลากหลาย
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ ระยะ 5 ปี (2560-2564) เสร็จแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีแผนยุทธศาสตร์ในการดำเนินการมาแล้ว 5 ปี ครบกำหนดในปีนี้ โดยได้กำหนดยุทธศาสตร์การทำงานใน 4 ด้าน คือ การสร้างการรับรู้ของผู้ที่เกี่ยวข้อง การผลักดันมาตรฐานและระบบการรับรองเกษตรอินทรีย์ การพัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าและบริการอินทรีย์ และการพัฒนาตลาดสินค้าและบริการอินทรีย์
ทั้งนี้ การจัดทำยุทธศาสตร์ดังกล่าวได้ตั้งเป้าผลักดันให้ไทยเป็นผู้นำด้านการผลิต การค้า และการบริโภคสินค้าอินทรีย์ในภูมิภาคอาเซียน โดยปัจจุบันในเอเชีย เกษตรอินทรีย์มีพื้นที่ประมาณ 23 ล้านไร่ หรือ 10% ของพื้นที่เกษตรอินทรีย์ทั้งโลก ที่มีอยู่รวมกันประมาณ 232.5 ล้านไร่ จีนมีพื้นที่มากสุด รองลงมาคือ อินเดีย ส่วนไทยอยู่อันดับที่ 8 ในเอเชีย และอันดับที่ 4 ในอาเซียน ส่วนประเทศที่มีพื้นที่เกษตรอินทรีย์มากที่สุดในโลก คือ ออสเตรเลีย อาร์เจนตินา และสหรัฐฯ ขณะที่ประเทศที่มีประชากรทำเกษตรอินทรีย์มากที่สุด คือ อินเดีย ยูกันดา และเม็กซิโก
นางอภิรดีกล่าวว่า จากการสำรวจพบว่าไทยมีพื้นที่เกษตรอินทรีย์ประมาณ 3.7 แสนตารางกิโลเมตร มีประชากรที่ทำเกษตรอินทรีย์ประมาณ 7,000 ราย มีผลผลิต 80,000 ตัน โดยปัจจุบันมีการส่งออกประมาณ 135 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,000 ล้านบาท มีตลาดส่งออกที่สำคัญ คือ สหภาพยุโรป สหรัฐฯ และสิงคโปร์ ตามลำดับ ไทยยังมีโอกาสในการขยายจำนวนผลผลิตและตลาดส่งออกได้อีกมากเพื่อป้อนความต้องการของตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะประชากรโลกได้ตื่นตัวเกี่ยวกับสุขอนามัย อาหารปลอดภัย และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น
“ปัจจุบันตลาดเกษตรอินทรีย์โลกมีมูลค่ามากถึง 72,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 2.3 ล้านล้านบาท มีอัตราการขยายตัวถึง 12.8% โดยประเทศที่ครองตลาดใหญ่ที่สุด คือ สหรัฐฯ เยอรมนี และฝรั่งเศส แต่หากไทยมีการเพิ่มปริมาณผลผลิตก็จะสามารถเพิ่มยอดการส่งออกเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งในตลาดซึ่งมีมูลค่ามหาศาลได้เพิ่มขึ้นแน่นอน” นางอภิรดีกล่าว
นางอภิรดีกล่าวว่า สำหรับยุทธ์ศาสตร์ทั้ง 4 ด้าน ที่จะนำมาใช้ในการดำเนินการนั้น ยุทธศาสตร์ที่ 1 จะเร่งสร้างความตระหนักให้เกษตรกร ผู้ผลิต ผู้ประกอบการหันมาทำเกษตรอินทรีย์ ยุทธศาสตร์ที่ 2 จะผลักดันให้การผลิตมีมาตรฐาน และได้รับเครื่องหมายรับรอง ตั้งแต่การเพาะปลูกไปจนถึงสินค้าสำเร็จรูป ยุทธศาสตร์ที่ 3 จะเพิ่มช่องทางจำหน่ายในประเทศ เช่น การตั้งตลาดกลาง ตั้งศูนย์รวบรวม การสร้างชุมชนต้นแบบอินทรีย์ การขายผ่านห้าง ออนไลน์ และในต่างประเทศ จะเน้นการนำผู้ประกอบการไปเจรจาธุรกิจ ส่งเสริมให้ร้านอาหารไทยใช้สินค้าเกษตรอินทรีย์ และการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอินทรีย์ระดับโลก และยุทธศาสตร์ที่ 4 จะผลักดันให้มีการผลิตสินค้าให้มีความหลากหลาย ตรงตามความต้องการของตลาด โดยใช้นวัตกรรมในการต่อยอด และจะมีการจัดทำฐานข้อมูลเกษตรอินทรีย์ทั้งหมดตั้งแต่การผลิต การแปรรูป และการตลาด