“พาณิชย์” เตรียมออกประกาศทีโออาร์ 6 ก.ค.นี้ เปิดประมูลข้าวเสื่อม 4 แสนตัน เข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมตั้งแต่อาหารสัตว์ลงไป เปิดให้ยื่นเสนอราคาวันที่ 25 ก.ค. ยันระบายช่วงนี้เหมาะสม เหตุข้าวยังไม่ออก ส่วนสต๊อกล่าสุดเหลือแค่ 9.5 ล้านตัน มั่นใจกลางปี 60 ขายได้หมด
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ เตรียมออกประกาศหลักเกณฑ์และเงื่อนไข (ทีโออาร์) การระบายข้าวสต๊อกรัฐบาลในกลุ่มของข้าวเสื่อมเพื่อเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมตั้งแต่อาหารสัตว์ลงไป ปริมาณ 4 แสนตัน โดยคาดว่าจะออกทีโออาร์ได้ในวันที่ 6 ก.ค. 2559 ชี้แจงเงื่อนไขการประมูลวันที่ 8 ก.ค. 2559 และจะเปิดให้เอกชนเข้าไปตรวจสอบสภาพข้าวในโกดังระหว่างวันที่ 11-15 ก.ค. 2559 จากนั้นเปิดให้ยื่นซองเสนอคุณสมบัติวันที่ 21 ก.ค. 2559 และเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาวันที่ 25 ก.ค. 2559
“การเปิดประมูลข้าวเสื่อมเข้าอุตสาหกรรม ผู้ที่ประมูลได้จะให้ตั้งแต่ทำอาหารสัตว์ ไปจนถึงทำเอทานอล ทำปุ๋ย และอื่นๆ โดยการประมูลจะทำควบคู่ไปกับการระบายข้าวให้แก่ผู้ประกอบการที่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ เพื่อนำไปส่งออก ซึ่งแม้จะเป็นช่วงเดียวกัน แต่สามารถบริหารจัดการได้ เพราะเป็นการประมูลคนละตลาด คนละเป้าหมาย” นางดวงพรกล่าว
นางดวงพรกล่าวว่า การเปิดระบายข้าวในช่วงนี้ เป็นจังหวัดที่เหมาะสม เพราะตลาดข้าวมีความต้องการ เนื่องจากผลผลิตข้าวออกมาน้อย โดยข้าวนาปรังแทบจะไม่มีผลผลิตออกมาเลย ส่วนข้าวนาปี ฤดูกาลผลิตปี 2559/2560 ก็เลื่อนการเพาะปลูกจากปกติที่จะปลูกช่วงเดือน ส.ค.และเก็บเกี่ยวช่วง ธ.ค. ก็อาจจะเลื่อนออกไปอีก ทำให้ภายใน 1-2 เดือนนี้ ยังสามารถระบายข้าวในสต๊อกรัฐได้อยู่ โดยคาดว่าปีนี้น่าจะขายข้าวออกไปได้มากกว่า 6 ล้านตัน และทำให้จนถึงกลางปี 2560 จะระบายข้าวสต๊อกออกไปได้ทั้งหมด
สำหรับสถานะสต๊อกข้าวรัฐบาลในปัจจุบัน มีข้าวอยู่ในคลังกลาง 9.5 ล้านตัน นอกคลังกลางอีกประมาณ 1 ล้านกว่าตัน ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมเพื่อนำมาเข้าคลังกลาง แบ่งเป็นข้าวกลุ่ม 1 หรือข้าวที่มีเกรดซีปนอยู่ไม่เกิน 20% ปริมาณ 7.5 ล้านตัน โดยจะระบายเป็นการทั่วไป กลุ่ม 2 หรือข้าวที่มีเกรดซีปน 20% ขึ้นไป เหลือประมาณ 1.5 ล้านตัน โดยจะระบายเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมที่แปรรูปเพื่อการบริโภคทั้งคนและสัตว์ และกลุ่ม 3 ข้าวเสื่อมสภาพ มีปริมาณ 2.4 ล้านตัน จะระบายเข้าอุตสาหกรรมตั้งแต่อาหารสัตว์ลงไป รวมถึงอุตสาหกรรมเอทานอล
นางดวงพรกล่าวว่า ส่วนการชี้แจงเงื่อนไขการเปิดให้เอกชนที่มีคำสั่งซื้อข้าวจากต่างประเทศมายื่นซื้อข้าวปริมาณ 2.18 ล้านตัน หลักเกณฑ์เบื้องต้นจะต้องเป็นเอกชนที่มีการจดทะเบียนเป็นผู้ส่งออกข้าวกับกรมฯ ตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป มีคำสั่งซื้อข้าวมาเสนอ และการขอซื้อข้าวจะต้องซื้อแบบยกคลัง ซึ่งผู้ส่งออกสามารถที่จะรวบรวมคำสั่งซื้อรวมกันมายื่นซื้อได้ และจะต้องนำใบหลักฐานการส่งออกมาแสดงเพื่อเป็นหลักฐานภายใน 30 วัน นับตั้งแต่มีการขนข้าวออกจากคลังออกไป
“เชื่อว่าน่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมยื่นขอซื้อข้าวเป็นจำนวนมาก โดยหลักเกณฑ์จะคล้ายกับการประมูลข้าว แต่เนื่องจากมีการเปิดให้ยื่นคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ และอาจจะมีความลับทางการค้า คณะทำงานระบายข้าว จะเปิดห้องเพื่อพิจารณา โดยรวมรวมผู้ที่เสนอราคาซื้อสูงสุดและมาเจรจาต่อรองราคา เมื่อได้ผลสรุปก็จะเสนอประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) อนุมัติต่อไป” นางดวงพรกล่าว