“พาณิชย์” เตรียมเปิดระบายข้าวในสต๊อกอีก 2.18 ล้านตันให้กับภาคเอกชนที่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ เตรียมชี้แจงทีโออาร์วันที่ 1 ก.ค. เปิดให้ยื่นซองคุณสมบัติ 21 ก.ค. ยื่นซองเสนอซื้อ 25 ก.ค. ก่อนประกาศผลในวันที่ 29 ก.ค. ยันผู้ชนะประมูลต้องนำไปส่งออกเท่านั้น และต้องส่งหลักฐานการส่งออกด้วย
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ เตรียมออกประกาศเปิดจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกของรัฐให้กับภาคเอกชนที่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ เพื่อส่งออกต่างประเทศ ปริมาณ 2.18 ล้านตัน ตามนโยบายที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) เนื่องจากเห็นว่าขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะนำข้าวในสต๊อกของรัฐออกมาระบายสู่ตลาดต่างประเทศ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาและความเสื่อมสภาพของข้าว และยังช่วยผลักดันการส่งออกข้าวไทยได้เพิ่มขึ้น
“ตอนนี้สถานการณ์ข้าวในต่างประเทศ ปริมาณผลผลิตข้าวไม่เพียงพอต่อปริมาณความต้องการข้าวในตลาด ซึ่งเป็นผลกระทบจากประเทศผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ของโลกมีปริมาณผลผลิตข้าวลดลง และในส่วนของไทยผลผลิตข้าวฤดูกาลใหม่กำลังจะทยอยออกสู่ตลาด ภาครัฐจึงจำเป็นต้องเร่งระบายข้าวในสต๊อกของรัฐในขณะนี้ เพื่อไม่ให้กระทบระดับราคาข้าวและราคาที่เกษตรกรในประเทศจะได้รับ”
สำหรับชนิดข้าวในสต๊อกของรัฐที่จะนำออกมาเปิดจำหน่ายในครั้งนี้ เป็นข้าวระดับคุณภาพที่สามารถปรับปรุงเพื่อการส่งออกได้ ประกอบด้วย 17 ชนิด ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ข้าวหอมจังหวัด ข้าวขาว 5% ข้าวขาว 10% ข้าวขาว 15% ข้าวขาว 25% เลิศ ข้าวปทุมธานี ข้าวปทุมธานี 5% ข้าวเหนียวขาว 10% ข้าวท่อนหอมมะลิ ข้าวท่อนหอมจังหวัด ข้าวท่อนปทุมธานี ปลายข้าวหอมมะลิ ปลายข้าวหอมจังหวัด ปลายข้าวปทุมธานี ปลายข้าว A1 เลิศ และปลายข้าว A1 รวมปริมาณทั้งสิ้น 2.18 ล้านตัน จำนวน 139 คลัง
ทั้งนี้ กรมฯ มีกำหนดจะเชิญผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังเงื่อนไขการจำหน่าย (TOR) ในวันที่ 1 ก.ค. 2559 เวลา 10.00 น. ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 3 อาคารกองมาตรฐานสินค้านำเข้าส่งออก กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
นางดวงพรกล่าวว่า การจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกของรัฐในครั้งนี้ กำหนดให้ผู้ประกอบการในประเทศที่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศยื่นซองเอกสารคุณสมบัติผู้เสนอซื้อในวันที่ 21 ก.ค. 2559 และยื่นซองเสนอราคาซื้อในวันที่ 25 ก.ค. 2559 โดยจะประกาศรายชื่อผู้เสนอราคาซื้อสูงสุดในแต่ละคลังในวันที่ 29 ก.ค. 2559 พร้อมแจ้งนัดหมายให้มาเจรจาต่อรองกับคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสต๊อกของรัฐด้วยความโปร่งใสทุกขั้นตอน
สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับอนุมัติการจำหน่ายจากประธานกรรมการ นบข. ต้องรับมอบข้าวจากคลังไปปรับปรุงส่งออกตามกรอบเวลาที่กำหนดและต้องส่งรายงานพร้อมแสดงเอกสารหลักฐานการส่งออกตามเงื่อนไขที่ประกาศกำหนดด้วย โดยสามารถดูรายละเอียดเงื่อนไขการจำหน่ายเพิ่มเติมได้ที่ www.dft.go.th
