ประมูลข้าวรัฐ 2.2 ล้านตันคึกคัก เอกชนแห่ยื่นซองเสนอราคา 64 ราย “พาณิชย์” เผยเสนอราคาใกล้เคียงกับราคาตลาด คาดน่าจะขายได้กว่าครึ่ง เตรียมเดินหน้าระบายสต๊อกต่อเนื่อง คาดที่เหลืออีกไม่ถึง 10 ล้านตัน สิ้นปีนี้หมดแน่ ส่วนยอดส่งออก 5 เดือนครึ่ง ทำได้แล้ว 4.6 ล้านตัน มูลค่า 7.1 หมื่นล้านบาท คาดทั้งปีทะลุเป้า 9.5 ล้านตันแน่นอน
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2559 กรมฯ ได้เปิดให้ผู้ที่ผ่านคุณสมบัติจำนวน 69 ราย ยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวในสต๊อกรัฐบาลรวม 16 ชนิด ปริมาณ 2.23 ล้านตัน โดยส่วนใหญ่ประมาณ 9.43 แสนตัน เป็นข้าวขาว 5% และปลายข้าวอีกกว่า 7 แสนตัน มีผู้ยื่นซองทั้งสิ้น 64 ราย เสนอราคาซื้อข้าวขาวตันละประมาณ 11,000 บาท และปลายข้าวตันละ 7,000-8,000 บาท ซึ่งราคาที่เสนอซื้อส่วนใหญ่สูงกว่าราคาเกณฑ์ขั้นต่ำ (ฟลอร์แวลู) ที่กำหนด โดยคณะอนุกรรมการระบายข้าว จะพิจารณาราคาที่เสนอซื้ออีกครั้ง หากรายใดเสนอสูงกว่าราคาฟลอร์แวลูก็จะเสนอให้คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พิจารณาอนุมัติขายให้ต่อไป
“การยื่นเสนอราคาประมูลข้าวครั้งนี้ พบว่าราคาที่เสนอซื้อทั้งข้าวขาว และปลายข้าว เป็นราคาที่น่าพอใจ เพราะใกล้เคียงกับราคาตลาด โดยข้าวขาวราคาตลาดปัจจุบันตันละ 13,000-14,000 บาท ส่วนปลายข้าว ตันละ 10,000-11,000 บาท ซึ่งน่าจะอนุมัติขายให้ได้เกินครึ่งของปริมาณที่นำมาเปิดประมูล และหากครั้งนี้ขายได้ราว 1 ล้านตัน จะทำให้ข้าวในสต๊อกเหลือไม่ถึง 10 ล้านตันแล้ว” นางดวงพรกล่าว
ทั้งนี้ ตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศ สามารถระบายข้าวในสต๊อกได้แล้ว 9.7 ล้านตัน ยังไม่รวมการเปิดประมูลครั้งนี้ แบ่งเป็นการเปิดประมูลทั่วไป 6.4 ล้านตัน และการขายแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) 3.3 ล้านตัน ให้แก่จีน ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ส่วนสต๊อกล่าสุดเหลือไม่ถึง 10 ล้านตัน แบ่งเป็นข้าวเสื่อม (เกรดซี) ที่ยังทำเป็นอาหารคนและสัตว์ได้ราว 2 ล้านตันเศษ, ข้าวเกรดซีผสมข้าวเสีย ที่ทำเป็นอาหารสัตว์และอุตสาหกรรมอื่นๆ ราว 3 ล้านตัน และข้าวเกรดพี เกรดเอ และเกรดบี (ข้าวผ่านมาตรฐาน) อีกราว 3 ล้านตัน คาดว่า ในเดือน ก.ค. 2559 จะนำมาเปิดประมูลได้อีก 1-2 ล้านตัน เพราะขณะนี้ข้าวฤดูกาลใหม่ยังไม่ออก แต่ตลาดยังมีความต้องการอยู่มากจึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม สำหรับข้าวเกรดซีผสมกับข้าวเสียที่ต้องเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม และไม่สามารถนำมาบริโภคได้นั้นน่าจะนำออกมาขายได้ครั้งละจำนวนมาก ส่วนเกรดพี เอ และบี รวมถึงข้าวเกรดซีที่ยังทำอาหารคนและสัตว์ได้จะทยอยประมูลอย่างต่อเนื่อง และจะพยายามประมูลครั้งละมากๆ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษา โดยถ้าเป็นไปตามแผนน่าจะทำให้สามารถระบายข้าวออกจากสต๊อกได้ทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้
นางดวงพรกล่าวว่า ในด้านการส่งออกข้าวของไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 13 มิ.ย. 2559 ส่งออกได้แล้ว 4.6 ล้านตัน มูลค่า 71,682 ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมูลค่าเพิ่มขึ้น 9% โดยราคาส่งออกข้าวไทยขณะนี้ สูงกว่าคู่แข่งตันละ 45-50 เหรียญสหรัฐ ส่วนเป้าหมายทั้งปี 2559 ที่ตั้งไว้ที่ 9.5 ล้านตัน คาดว่าจะเป็นไปได้แน่นอน เพราะในช่วง 5 เดือนครึ่ง ส่งออกได้เกือบ 50% ของเป้าหมายแล้ว ประกอบกับความต้องการของประเทศต่างๆ ยังมีอยู่ โดยเฉพาะประเทศในแถบแอฟริกา ที่เศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น จากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่สูงขึ้น เพราะประเทศเหล่านี้ส่วนใหญ่ส่งออกน้ำมันดิบ ขณะเดียวกัน ประเทศอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ที่นำเข้าปีละหลายล้านตัน ในปีนี้ยังไม่ได้เปิดนำเข้าเลย และยังมีหลายประเทศที่ติดต่อขอซื้อข้าวไทยอีกเป็นจำนวนมาก