นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน นบข.ได้เห็นชอบให้จำหน่ายข้าวสารในสต๊อกของรัฐเป็นการทั่วไป ครั้งที่ 3/59 ให้แก่ผู้เสนอซื้อสูงสุด 23 ราย รวม 79 คลัง 783,947.71 ตัน หรือ 65.77% ของปริมาณข้าวสารที่เปิดประมูล คิดเป็นมูลค่าเสนอซื้อ 7,013.26 ล้านบาท โดยราคาที่เห็นชอบให้จำหน่าย ข้าวขาว 5% อยู่ที่ตันละ 11,050–11,500 บาท ปลายข้าว เอ1 เลิศ ตันละ 7,019–9,200 บาท และข้าวท่อนหอมมะลิ ตันละ 7,500 - 9,581 บาท
ทั้งนี้ ราคาเสนอซื้อดังกล่าว ผ่านเกณฑ์ราคาขั้นต่ำ ตามที่คณะทำงานฯ ได้คำนวณตามหลักเกณฑ์ และแนวทางที่ นบข. ให้ความเห็นชอบไว้แล้ว ถือว่าเป็นราคาที่จำหน่ายเป็นราคาที่เหมาะสม เนื่องจากสถานการณ์ตลาดข้าวขณะนี้ ทั้งในและต่างประเทศมีความต้องการใช้ข้าวสารในสต็อกของรัฐ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยแล้ง ที่ส่งผลให้ผลผลิตข้าวไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด และนับว่าราคาจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกของรัฐครั้งนี้ จะเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวก ชี้นำราคาข้าวในตลาดให้มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะได้เป็นผลดีต่อราคาส่งออกของข้าวไทย รวมทั้งราคาข้าวที่เกษตรกรจะได้รับ
ก่อนหน้านี้กรมการค้าต่างประเทศได้เปิดซองเสนอราคาซื้อข้าวสารในสต็อกของรัฐเป็นการทั่วไป ครั้งที่ 3/59 เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่าจาก ผู้ที่มีคุณสมบัติเสนอซื้อถูกต้องครบถ้วนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข51 ราย สนใจยื่นซองเสนอซื้อ 48 ราย ซึ่งเป็นผู้เสนอราคาซื้อสูงสุด 31 ราย จาก 118 คลัง รวม 1.175 ล้านตัน หรือ 98% ของปริมาณที่เปิดประมูล โดยมีมูลค่าที่เสนอซื้อ 10,046 ล้านบาท และชนิดข้าวที่มีผู้เสนอราคาซื้อมากที่สุดเป็น ปลายข้าว เอ1 เลิศ 390,311 ตัน หรือ 32% รองลงมาได้แก่ ข้าวขาว 5% และข้าวท่อนหอมมะลิ
ทั้งนี้ ราคาเสนอซื้อดังกล่าว ผ่านเกณฑ์ราคาขั้นต่ำ ตามที่คณะทำงานฯ ได้คำนวณตามหลักเกณฑ์ และแนวทางที่ นบข. ให้ความเห็นชอบไว้แล้ว ถือว่าเป็นราคาที่จำหน่ายเป็นราคาที่เหมาะสม เนื่องจากสถานการณ์ตลาดข้าวขณะนี้ ทั้งในและต่างประเทศมีความต้องการใช้ข้าวสารในสต็อกของรัฐ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยแล้ง ที่ส่งผลให้ผลผลิตข้าวไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด และนับว่าราคาจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกของรัฐครั้งนี้ จะเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวก ชี้นำราคาข้าวในตลาดให้มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะได้เป็นผลดีต่อราคาส่งออกของข้าวไทย รวมทั้งราคาข้าวที่เกษตรกรจะได้รับ
ก่อนหน้านี้กรมการค้าต่างประเทศได้เปิดซองเสนอราคาซื้อข้าวสารในสต็อกของรัฐเป็นการทั่วไป ครั้งที่ 3/59 เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่าจาก ผู้ที่มีคุณสมบัติเสนอซื้อถูกต้องครบถ้วนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข51 ราย สนใจยื่นซองเสนอซื้อ 48 ราย ซึ่งเป็นผู้เสนอราคาซื้อสูงสุด 31 ราย จาก 118 คลัง รวม 1.175 ล้านตัน หรือ 98% ของปริมาณที่เปิดประมูล โดยมีมูลค่าที่เสนอซื้อ 10,046 ล้านบาท และชนิดข้าวที่มีผู้เสนอราคาซื้อมากที่สุดเป็น ปลายข้าว เอ1 เลิศ 390,311 ตัน หรือ 32% รองลงมาได้แก่ ข้าวขาว 5% และข้าวท่อนหอมมะลิ