เงินเฟ้อเดือน พ.ค.เพิ่มขึ้น 0.46% ขยายตัวสูงสุดในรอบ 17 เดือน เหตุภัยแล้งทำสินค้ากลุ่มผักสด และเนื้อสัตว์ราคาสูงขึ้น “พาณิชย์” เชื่อเดือนต่อไปราคาลงหลังเข้าสู่ฤดูฝน คาดบางเดือนเงินเฟ้ออาจกลับมาติดลบอีก แต่ทั้งปียังคงเป้า 0-1%
นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ (เงินเฟ้อ) เดือน พ.ค. 2559 เท่ากับ 107.02 สูงขึ้น 0.46% เทียบกับเดือนพ.ค. 2558 ซึ่งเป็นการปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบ 17 เดือน นับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2557 ที่เงินเฟ้อขยายตัว 0.60% และเมื่อเทียบกับเดือน เม.ย. 2559 ที่ผ่านมา เงินเฟ้อสูงขึ้น 0.56% แต่เงินเฟ้อเฉลี่ยช่วง 5 เดือนของปี 2559 (ม.ค.-พ.ค.) ยังคงลดลง 0.20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
สาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น 0.46% เป็นผลมาจากดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่ม เพิ่มขึ้น 2.97% โดยสินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น เช่น ผักสด เพิ่ม 27.16% เนื้อสัตว์ เป็ดไก่ และสัตว์น้ำ เพิ่ม 2.37% ไข่และผลิตภัณฑ์นม เพิ่ม 2.20% อาหารบริโภคนอกบ้าน เพิ่ม 0.88% อาหารบริโภคในบ้าน เพิ่ม 1.07% เครื่องประกอบอาหาร เพิ่ม 0.31% ขณะที่ดัชนีหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ลดลง 0.94% โดยสินค้าสำคัญที่ราคาลดลง เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง ลด 9.32% ส่วนสินค้าที่ราคาแพงขึ้น เช่น หมวดยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ เพิ่ม 13.15% จากการเก็บภาษีสรรพสามิตบุหรี่ เป็นต้น
ทั้งนี้ เมื่อแยกรายการสินค้า 450 รายการที่ใช้คำนวณเงินเฟ้อ พบว่า สินค้าราคาสูงขึ้น 193 รายการ คิดเป็นสัดส่วน 41.31% ของสัดส่วนน้ำหนักรวม เช่น ไข่ไก่ เพิ่ม 1.77% ผักชี เพิ่ม 59.48% พริกสด เพิ่ม 50.88% บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพิ่ม 0.14% ค่าเช่าบ้าน เพิ่ม 0.05% ค่าเล่าเรียน (ค่าธรรมเนียมประถมศึกษาภาคเอกชน) เพิ่ม 1.19% ค่าลงทะเบียน (ค่าธรรมเนียมอุดมศึกษาภาคเอกชน) เพิ่ม 2.18% เป็นต้น ส่วนสินค้าราคาไม่เปลี่ยนแปลงมี 187 รายการ คิดเป็นสัดส่วน 44.19% ของสัดส่วนน้ำหนักรวม และสินค้าลดลง 70 รายการ คิดเป็นสัดส่วน 14.50% ของสัดส่วนน้ำหนักรวม
นายสมเกียรติกล่าวว่า เงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นในเดือน พ.ค. เป็นผลมาจากภาวะภัยแล้งที่ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหาย ส่งผลให้ราคาผักสดและผลไม้ รวมทั้งเนื้อสัตว์บางชนิดปรับตัวสูงขึ้น แต่เชื่อว่าหลังจากเข้าสู่ช่วงฤดูฝน จะทำให้สถานการณ์ภัยแล้งลดความรุนแรง และระดับราคาสินค้าเกษตรและอาหารจะอ่อนตัวลงมา ซึ่งอาจทำให้แนวโน้มเงินเฟ้อไปแกว่งตัวอยู่ในแดนลบได้อีกในบางเดือน โดยเงินเฟ้อปีนี้ ไม่น่าจะติดลบ เพราะราคาน้ำมันดิบได้ถึงจุดต่ำสุด และเริ่มปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย โดยมีการคาดการณ์เงินเฟ้อในไตรมาส 3 ขยายตัวประมาณ 1% และเงินเฟ้อไตรมาส 4 ขยายตัวประมาณ 2%
สำหรับเงินเฟ้อทั้งปี 2559 ยังคงประมาณการในอัตราเดิม คือ ขยายตัวอยู่ระหว่าง 0.0-1.0% ภายใต้สมมุติฐาน คือ อัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจ ขยายตัว 2.8-3.8% น้ำมันดิบตลาดดูไบ ราคา 30-40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยน 36-38 บาทต่อเหรียญสหรัฐ และมีปัจจัจสนับสนุน คือ การลงทุนของภาครัฐ ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวต่อเนื่อง สถานการณ์ในตลาดน้ำมันเริ่มคลี่คลาย อุปทานน้ำมันในตลาดโลกยังอยู่ในระดับสูง
ด้านดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (เงินเฟ้อพื้นฐาน) หักรายการอาหารสดและพลังงานออก พบว่า เดือน พ.ค. 2559 เท่ากับ 106.58 สูงขึ้น 0.78% เมื่อเทียบกับ พ.ค. 2558 และสูงขึ้น 0.05% เมื่อเทียบกับ เม.ย. 2559 เฉลี่ย 5 เดือน สูงขึ้น 0.72% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา