เงินเฟ้อ ก.พ.ลดลง 0.50% ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 ติดต่อกัน เผยแม้กลุ่มผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ และยาสูบจะราคาเพิ่มขึ้น แต่กลับถูกราคาน้ำมัน ค่าไฟ และก๊าซหุงต้มที่ลดลงเป็นตัวฉุด “พาณิชย์” คาดเงินเฟ้อจะเริ่มพลิกกลับมาเป็นบวกได้ตั้งแต่ช่วงกลางปีเป็นต้นไป พร้อมปรับประมาณการเงินเฟ้อปีนี้ใหม่เหลือ 0.0-1.0% จากเดิม 1.0-2.0%
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (เงินเฟ้อ) เดือน ก.พ. 2559 เท่ากับ 105.62 เมื่อเทียบกับเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 0.15% และเมื่อเทียบกับเดือน ก.พ. 2558 ลดลง 0.50% ซึ่งเป็นการขยายตัวติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 ติดต่อกันนับจากเดือนม.ค. 2558 และเมื่อเทียบเฉลี่ย 2 เดือนของปี 2559 (ม.ค.-ก.พ.) ลดลง 0.52%
“เงินเฟ้อเดือน ก.พ.ที่ยังติดลบ 0.50% เพราะน้ำมันยังคงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้กลุ่มการขนส่งและค่าโดยสาร ทั้งรถ บขส. และรถร่วมเอกชนลดลง และยังได้ผลดีจากค่ากระแสไฟฟ้า ค่าก๊าซหุงต้ม ที่ลดลง แม้ว่าเดือนนี้จะมีแรงกดดันจากการขึ้นราคาของสินค้ากลุ่มอาหารสด ทั้งผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ ในช่วงเทศกาลตรุษจีน รวมถึงการขึ้นราคาของกลุ่มยาสูบ”
สำหรับรายละเอียดเงินเฟ้อเดือน ก.พ. ที่ลดลง 0.50% เป็นผลมาจากดัชนีหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มลดลง 1.45% โดยสินค้าสำคัญที่ลดลง เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง ลด 18.35% เคหสถาน ลด 0.41% การสื่อสาร ลด 0.03% แต่เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า เพิ่ม 0.46% การรักษาและบริการส่วนบุคคล เพิ่ม 0.92% บันเทิงการอ่านและการศึกษา เพิ่ม 1.15% ยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ เพิ่ม 10.73%
ส่วนดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น 1.26% โดยสินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น เช่น ผักสด เพิ่ม 8.51% ผลไม้สด เพิ่ม 2.40% เนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ และสัตว์น้ำ เพิ่ม 1.52% ไข่และผลิตภัณฑ์นม เพิ่ม 0.76% อาหารบริโภคในบ้าน เพิ่ม 0.55% นอกบ้าน เพิ่ม 0.76% แต่ข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง ลด 0.21% เครื่องประกอบอาหาร ลด 0.50%
อย่างไรก็ตาม เงินเฟ้อพื้นฐานเดือน ก.พ. 2559 ที่หักสินค้ากลุ่มอาหารสดและพลังงานออก เท่ากับ 106.37 เมื่อเทียบกับเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาสูงขึ้น 0.18% เทียบกับเดือน ก.พ. 2558 สูงขึ้น 0.68% และเฉลี่ย 2 เดือนสูงขึ้น 0.63%
น.ส.พิมพ์ชนกกล่าวว่า แนวโน้มเงินเฟ้อเริ่มเห็นชัดเจนว่ามีสัญญาณที่ค่อยๆ ติดลบน้อยลง ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่เริ่มส่งผล โดยช่วงนี้ไปจนถึงกลางปีตัวเลขเงินเฟ้อจะยังคงขยายตัวติดลบอยู่ แต่จะเริ่มเป็นบวกได้ตั้งแต่ช่วงกลางปีเป็นต้นไป และจะทำให้เงินเฟ้อทั้งปีกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ แต่จะบวกไม่มาก
ทั้งนี้ จากแนวโน้มดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์ได้ปรับประมาณการเงินเฟ้อปี 2559 ใหม่เป็น 0.0-1.0% ลดลงจากเดิม 1.0-2.0% ภายใต้สมมติฐานอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ 2.8-3.8% จากเดิม 3.0-4.0% ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 30-40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากเดิม 48-54 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 36-38 บาทต่อเหรียญสหรัฐคงเดิม
