เงินเฟ้อ ธ.ค.ลดลง 0.85% ขยายตัวติดลบเป็นเดือนที่ 12 ในรอบปี 58 ส่วนยอดรวมทั้งปีลดลง 0.90% กลับมาติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี นับจากปี 52 “พาณิชย์” ตั้งเป้าปี 59 เงินเฟ้อขยายตัว 1-2% คาดเริ่มเห็นเป็นบวกได้ตั้งแต่ไตรมาสแรกเป็นต้นไป แต่ต้องระวังน้ำมัน หากปรับตัวลดลงอีก มีผลกดเงินเฟ้อต่อ
นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ (เงินเฟ้อ) เดือน ธ.ค. 2558 เท่ากับ 105.74 ลดลง 0.39% เมื่อเทียบกับเดือนพ.ย. 2558 และลดลง 0.85% เมื่อเทียบกับเดือนธ.ค.2557 ถือเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกัน ส่วนยอดรวมเงินเฟ้อทั้ง 12 เดือนของปี 2558 (ม.ค.-ธ.ค.) ลดลง 0.90% เป็นการขยายตัวติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี นับจากปี 2552 ที่เงินเฟ้อติดลบ 0.90%
โดยเงินเฟ้อปี 2558 ที่ขยายตัวติดลบ 0.90% ไม่ได้เกินไปจากที่กระทรวงพาณิชย์ได้คาดการณ์เอาไว้ว่าจะขยายตัวอยู่ในช่วงติดลบ 1% ถึงติดลบ 0.2% ซึ่งการที่เงินเฟ้อทั้ง 12 เดือนขยายตัวติดลบ และตัวเลขทั้งปีติดลบ มีสาเหตุหลักๆ มาจากการปรับลดลงของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ลดลงต่อเนื่องตลอดทั้งปี การลดลงของอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (Ft) ที่ลดตามราคาก๊าซธรรมชาติ และรัฐบาลมีมาตรการดูแลค่าครองชีพต่อเนื่อง ทำให้ราคาสินค้าทรงตัว
ทั้งนี้ เงินเฟ้อเดือน ธ.ค. 2558 ที่ลดลง 0.85% มาจากการลดลงของดัชนีราคาหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม 1.78% โดยหมวดพาหนะ การขนส่งและการสื่อสาร ลด 5.22% น้ำมัน ลด 18.93% เคหสถาน ลด 0.29% แต่หมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า เพิ่ม 0.51% การรักษาและบริการส่วนบุคคล เพิ่ม 0.85% การบันเทิง การอ่าน การศึกษาและการศาสนา เพิ่ม 1.13% ยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ เพิ่ม 1.77% ขณะที่ดัชนีราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้น 0.83% ตามการสูงขึ้นของเนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ และสัตว์น้ำ 0.52% ผักและผลไม้ เพิ่ม 3.22% อาหารสำเร็จรูป เพิ่ม 0.84% แต่ไข่และผลิตภัณฑ์นม ลดลง 0.26% เครื่องประกอบอาหาร ลด 0.32% ข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง ไม่เปลี่ยนแปลง
สำหรับเงินเฟ้อทั้งปี 2558 ที่ลดลง 0.90% มาจากการลดลงของดัชนีหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม 2% ตามการลดลงของหมวดพาหนะ การขนส่งและการสื่อสาร ลด 6.52% น้ำมัน ลด 21.58% แต่เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า เพิ่ม 0.58% เคหสถาน เพิ่ม 0.59% การรักษาและบริการส่วนบุคคล เพิ่ม 0.99% การบันเทิง การอ่าน การศึกษาและการศาสนา เพิ่ม 0.96% ยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ เพิ่ม 2.08% ส่วนดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เพิ่ม 1.14% ตามการสูงขึ้นของข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง 0.27% ผักและผลไม้ เพิ่ม 3.27% เครื่องประกอบอาหาร เพิ่ม 1% เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เพิ่ม 0.64% อาหารสำเร็จรูป เพิ่ม 1.65% เนื้อสัตว์ เป็ด ไก่และสัตว์น้ำ เพิ่ม 0.04% แต่ไข่และผลิตภัณฑ์นม ลด 2.06%
นายสมเกียรติกล่าวว่า กระทรวงฯ ได้คาดการณ์เงินเฟ้อทั้งปี 2559 จะอยู่ระหว่าง 1-2% โดยมีสมมติฐานหลัก คือ อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) อยู่ที่ 3-4% ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ระหว่าง 48-54 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 36-38 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยคาดว่าเงินเฟ้อจะเริ่มปรับตัวเป็นบวกได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ แต่หากราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ก็ยังก่ำกึ่งว่าเงินเฟ้ออาจจะไม่ขยายตัวเป็นบวกก็ได้
“เงินเฟ้อในช่วงไตรมาสแรก น่าจะเริ่มกลับมาเป็นบวกได้ แต่ยังต้องจับตาสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกอย่างใกล้ชิด เพราะราคาน้ำมันลดลงไปจากที่คาดไว้มาก และกลัวว่าราคาน้ำมันจะลดลงต่อไปอีก เพราะเริ่มมีการพูดถึงที่ระดับ 35 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลกันแล้ว รวมถึงยังมีความกังวลว่าจะส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรอีกหลายๆ ตัวลดลงตามไปด้วย ซึ่งกระทรวงฯ จะมีการประเมินสถานการณ์เงินเฟ้อปี 2559 อีกครั้งในเดือน มี.ค.นี้ ”นายสมเกียรติกล่าว