xs
xsm
sm
md
lg

เงินเฟ้อ ส.ค.ลดลง 1.19% ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 “พาณิชย์” จ่อทบทวนเป้าทั้งปีใหม่ คาดมีโอกาสลบสูง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เงินเฟ้อ ส.ค.ลดลง 1.19% ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน ส่วนยอดรวม 8 เดือนยังลบ 0.89% “พาณิชย์” ยันไม่เกิดเงินฝืด เหตุราคาน้ำมันที่ลดลงเป็นตัวฉุด เตรียมทบทวนประมาณการเงินเฟ้อทั้งปีใหม่จากเดิม 0.6-1.3% คาดมีโอกาสขยายตัวติดลบ

นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ (เงินเฟ้อ) เดือน ส.ค. 2558 เท่ากับ 106.33 เมื่อเทียบกับเดือน ก.ค. 2558 ลดลง 0.23% เทียบกับเดือน ส.ค. 2557 ลดลง 1.19% ซึ่งเป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันนับจากเดือน ม.ค. 2558 และเทียบเฉลี่ย 8 เดือนของปี 2558 (ม.ค.-ส.ค.) ยังคงขยายตัวติดลบที่ 0.89% ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 เช่นเดียวกัน

“เงินเฟ้อเดือน ส.ค. ที่ยังคงขยายตัวในแดนลบ เนื่องจากราคาน้ำมันเป็นปัจจัยหลักที่เป็นตัวฉุดให้เงินเฟ้อลดลง โดยน้ำมันเชื้อเพลิงลดลงไปถึง 24.72% ทำให้สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน และสินค้าอื่นๆ ที่มีต้นทุนจากน้ำมันลดลงต่อเนื่อง ขณะที่สินค้าทั่วไป ส่วนใหญ่มีราคาทรงตัว”

โดยจากการสำรวจพบว่าในเดือน ส.ค. ดัชนีราคาหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ลดลง 2.52% ตามการลดลงของหมวดพาหนะ การขนส่งและการสื่อสาร 7.58% แต่เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า เพิ่ม 0.46% เคหสถาน เพิ่ม 0.30% การรักษาและบริการส่วนบุคคล เพิ่ม 0.71% บันเทิง การอ่าน การศึกษาและการศาสนา เพิ่ม 1.27% ยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ เพิ่ม 2.01% ขณะที่ดัชนีราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้น 1.27% ตามการสูงขึ้นของข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง 0.34% ผักและผลไม้ เพิ่ม 8.51% เครื่องประกอบอาหาร เพิ่ม 0.33% เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เพิ่ม 0.26% อาหารสำเร็จรูป เพิ่ม 1.09% แต่เนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ และสัตว์น้ำ ลดลง 0.69% ไข่และผลิตภัณฑ์นม ลดลง 2.58%

สำหรับสถานการณ์ราคาสินค้าในเดือน ส.ค. พบว่ามีสินค้าที่มีราคาสูงขึ้น 148 รายการ ทรงตัว 191 รายการ และลดลง 111 รายการ

นายสมเกียรติกล่าวว่า การที่เงินเฟ้อติดลบต่อเนื่อง 8 เดือน ไม่ได้หมายความว่าเกิดภาวะเงินฝืด เพราะเงินไม่ได้ฝืด แต่ที่เงินเฟ้อติดลบมาตลอด ก็เพราะราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง โดยเท่าที่ประเมินราคาน้ำมันปรับลดลงมาเกือบ 50% จากราคาปกติ ทำให้เป็นแรงฉุดที่สำคัญ และหากราคาน้ำมันยังคงปรับตัวลดลงไปอีก ก็จะยิ่งทำให้เงินเฟ้อขยายตัวในกรอบลบไปเรื่อยๆ

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการประเมินประมาณการเงินเฟ้อทั้งปีใหม่ เพราะเงินเฟ้อเดิมที่ตั้งไว้ที่ 0.6-1.3% อยู่ภายใต้สมมติฐานการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ที่ 3-4% ราคาน้ำมันดิบดูไบ 50-60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยน 32-34 บาทต่อเหรียญสหรัฐ แต่ขณะนี้สมมติฐานมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ซึ่งคาดว่าประมาณการเงินเฟ้ออาจจะติดลบ

“เงินเฟ้อทั้งปีมีแนวโน้มขยายตัวติดลบ แต่ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง หากเป็นการติดลบเพราะราคาน้ำมันที่ลดลง ซึ่งกำลังประเมินตัวเลขชัดๆ อยู่ โดยเฉพาะน้ำมันที่เดิมคาดว่าในช่วงปลายปี ราคาน้ำมันจะสูงขึ้นจากความต้องการใช้ในช่วงหน้าหนาว แต่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ทำให้ราคาน้ำมันน่าจะทรงตัวในระดับต่ำต่อไป ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนก็ไม่น่าจะอ่อนค่าลงไปมากกว่าปัจจุบัน” นายสมเกียรติกล่าว

อย่างไรก็ตาม หากเงินเฟ้อทั้งปีขยายตัวติดลบจริงก็จะถือว่าเป็นการติดลบครั้งแรกในรอบ 6 ปี นับตั้งแต่ปี 2552 ที่อัตราเงินเฟ้อติดลบ 0.9% ซึ่งการติดลบของเงินเฟ้อในปีนั้นเป็นผลมาจากการเริ่มโครงการลดค่าครองชีพให้ประชาชน เช่น โครงการรถเมล์ รถไฟฟรี รวมทั้งราคาน้ำมันในตลาดโลกช่วงนั้นก็ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ โดยราคาน้ำมันลดลงจาก 94 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในปี 2551 มาอยู่ที่ 61 เหรียญสหรัฐในปี 2552


กำลังโหลดความคิดเห็น