ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (19 ส.ค.) หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่เฟดได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจทั่วโลก นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 19 ส.ค. ในแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 162.61 จุด หรือ 0.93% ปิดที่ 17,348.73 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 17.31 จุด หรือ 0.83% ปิดที่ 2,079.61 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กลดลง 40.30 จุด หรือ 0.80% ปิดที่ 5,019.05 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ หลังจากรายงานการประชุมประจำวันที่ 28-29 ก.ค.ซึ่งเฟดเผยแพร่เมื่อวานนั้น บ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่เฟดได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจทั่วโลก แม้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้นก็ตาม
อย่างไรก็ดี การที่เฟดไม่ได้ส่งสัญญาณในเรื่องเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้น ได้ช่วยสกัดแรงลบในตลาด หลังจากที่ดาวโจนส์ดิ่งลงรุนแรงถึง 216.60 จุด หรือ 1.23% ในระหว่างวัน
ขณะที่นักวิเคราะห์บางคนมองว่า เมื่อพิจารณาจากรายงานการประชุมดังกล่าวแล้ว โอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.นั้น มีน้อยลง
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยหุ้นเชฟรอน และหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลงอย่างหนัก หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปรับตัวลดลง อันเนื่องมาจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (19 ส.ค.) แตะระดับต่ำสุด 6 ปีครึ่งครั้งใหม่ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 1.82 ดอลลาร์ ปิดที่ 40.8 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 1.65 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.16 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 14 ส.ค.พุ่งขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 456.2 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (19 ส.ค.) พราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ หลังจากมีรายงานว่าตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยในเดือนก.ค.
สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์-COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 11 ดอลลาร์ หรือ 0.98% ปิดที่ระดับ 1,127.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนก.ค.
รายงานการประชุมประจำวันที่ 28-29 ก.ค.ของเฟดระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจทั่วโลก นอกจากนี้ เฟดยังไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับระยะเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งส่งผลให้นักวิเคราะห์มองว่า โอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.นั้น มีน้อยลง
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 19 ส.ค. ในแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 162.61 จุด หรือ 0.93% ปิดที่ 17,348.73 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 17.31 จุด หรือ 0.83% ปิดที่ 2,079.61 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กลดลง 40.30 จุด หรือ 0.80% ปิดที่ 5,019.05 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ หลังจากรายงานการประชุมประจำวันที่ 28-29 ก.ค.ซึ่งเฟดเผยแพร่เมื่อวานนั้น บ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่เฟดได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจทั่วโลก แม้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้นก็ตาม
อย่างไรก็ดี การที่เฟดไม่ได้ส่งสัญญาณในเรื่องเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้น ได้ช่วยสกัดแรงลบในตลาด หลังจากที่ดาวโจนส์ดิ่งลงรุนแรงถึง 216.60 จุด หรือ 1.23% ในระหว่างวัน
ขณะที่นักวิเคราะห์บางคนมองว่า เมื่อพิจารณาจากรายงานการประชุมดังกล่าวแล้ว โอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.นั้น มีน้อยลง
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยหุ้นเชฟรอน และหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลงอย่างหนัก หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปรับตัวลดลง อันเนื่องมาจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (19 ส.ค.) แตะระดับต่ำสุด 6 ปีครึ่งครั้งใหม่ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 1.82 ดอลลาร์ ปิดที่ 40.8 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 1.65 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.16 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 14 ส.ค.พุ่งขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 456.2 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (19 ส.ค.) พราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ หลังจากมีรายงานว่าตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยในเดือนก.ค.
สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์-COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 11 ดอลลาร์ หรือ 0.98% ปิดที่ระดับ 1,127.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนก.ค.
รายงานการประชุมประจำวันที่ 28-29 ก.ค.ของเฟดระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจทั่วโลก นอกจากนี้ เฟดยังไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับระยะเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งส่งผลให้นักวิเคราะห์มองว่า โอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.นั้น มีน้อยลง