ปตท.ยอมรับได้หมายศาลคดีคืนท่อก๊าซฯ แล้ว โดยศาลสั่งให้ทำคำให้การประเด็นการปฏิบัติตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 18 ธ.ต.50 ว่าดำเนินการแบ่งแยกทรัพย์สินครบถ้วนหรือไม่อย่างไรภายใน 30 วัน ด้าน “เทวินทร์” ลั่นเชื่อมั่น 100% ดำเนินการมติ ครม.ครบถ้วนแล้ว ด้านบอร์ด ปตท.มีมติเก็บธุรกิจถ่านหินไว้ต่อแม้ว่าราคาจะต่ำอีกนาน และพร้อมซื้อแหล่งปิโตรเลียมที่ต่างชาติถอนตัว
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วันนี้ (27 พ.ค.) ปตท.ได้รับหมายศาลให้ ปตท.ทำคำให้การเฉพาะเรื่องได้มีการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2550 ว่า ได้ดำเนินการแบ่งแยกทรัพย์สินตามมติ ครม.ครบถ้วนแล้วอย่างไรภายใน 30 วัน เท่ากับว่า ศาลปกครองกลาง รับฟ้องเฉพาะองค์กรตามที่ผู้ตรวจการแผ่นดินที่ยื่นฟ้องเรื่องคดีคืนท่อก๊าซฯ เมื่อวันที่ 4 เม.ย.2559
ทั้งนี้ ปตท.เชื่อมั่น 100% ว่าได้ดำเนินการแบ่งแยกทรัพย์สินตามคำสั่งครบถ้วนแล้ว ซึ่งที่ผ่านมา ศาลฯ ได้มีการยกคำฟ้องในคดีคืนท่อก๊าซฯ มา 5 ครั้ง
“ระหว่างที่ประชุมบอร์ด ปตท.วันนี้ได้รับแจ้งว่า ปตท.ได้รับหมายศาลให้ทำคำให้การ เท่ากับว่าศาลฯ รับฟ้องตามที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 4 เม.ย.59 แล้ว โดยที่ผ่านมา เราเชื่อมั่นว่าดำเนินการครบถ้วนตามมติ ครม. โดยมีการรายงานผ่านกระทรวงไป ครม.ว่า ดำเนินการครบถ้วนแล้ว รวมทั้งแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ และรายงานศาล โดย ครม.ในยุคนั้นก็รับทราบ และไม่ได้โต้แย้งอะไร เท่ากับว่า ครม.รับรองไปแล้ว”
อย่างไรก็ตาม หากมีความเห็นที่แตกต่าง และมีประเด็นที่ต้องชี้แจง หากเป็นเรื่องกฎหมายพร้อมที่จะปฏิบัติ โดย ปตท.ไม่สามารถทำได้น้อยกว่า หรือมากกว่าคำสั่งศาลได้ เพราะหากเราคืนทรัพย์สินมากกว่าคำสั่งก็จะโดนฟ้องว่าทำให้องค์กรเสียหาย ผิดกฎหมายฉบับอื่น
“เราอยู่ในช่วงเรียนรู้กับคำว่าผิดคาด เข้าใจว่าขณะนี้โลกอยู่กับความผันผวน จากราคาน้ำมันดิบที่เคยสูง 100 เหรียญ ลดลงเหลือ 30 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งการผิดคาดไม่ทำให้องค์กรเดือดร้อน”
เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2559 ศาลปกครองกลาง ไม่รับฟ้องบุคคล 8 ราย ที่ถูกกล่าวหาในคดีท่อก๊าซ เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2559 ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ยื่นฟ้องเรื่องการคืนท่อก๊าซ ปตท.ต่อศาลปกครองกลาง หมายเลขดำที่ 510/2559 คงเหลือ 3 หน่วยงาน คือ กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน และ ปตท. โดยล่าสุด ได้มีหมายศาลให้ ปตท.ทำคำให้การชี้แจงการแบ่งแยกทรัพย์สินว่าดำเนินการตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2550 ครบถ้วนหรือไม่ภายใน 30 วัน
นายเทวินทร์ กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมบอร์ดฯ มีมติไม่ขายธุรกิจถ่านหิน จำนวน 2 เหมือง ในอินโดนีเซีย แม้ว่าราคาถ่านหินจะยังมีแนวโน้มต่ำเช่นนี้ แต่เนื่องจากเหมืองถ่านหินดังกล่าวมีคุณภาพถ่านหินที่ดี และเหมืองอยู่ใกล้ทะเลทำให้ขนส่งสะดวก และในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ก็สามารถลดต้นทุนได้ต่ำจนแข่งขันได้ ดังนั้น บอร์ดจึงให้ดำเนินธุรกิจเหมืองถ่านหินต่อไปโดยเจรจากับเหมืองข้างเคียงเพื่อซื้อเหมืองขนาดเล็ก หรือใช้อุปกรณ์ร่วมกันเพื่อลดต้นทุน ทั้งนี้ หากมีผู้สนใจซื้อเสนอราคาที่สูงก็พร้อมที่จะเจรจาขาย ปตท.ไม่ปิดกั้น
ส่วนสัมปทานถ่านหินที่ยังไม่ได้มีการดำเนินการในบรูไน และมาดากัสการ์ นั้น อาจจะมีการพิจารณาขายออกไป ทั้งนี้ ได้ส่งทีมงานไปศึกษาว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะหากคุณภาพถ่านหินไม่ดีจริงการพัฒนาเหมืองถ่านหินใหม่คงลำบาก
นายเทวินทร์ กล่าวถึงกรณีที่เชฟรอน ประกาศขายหุ้นในแหล่งอาทิตย์ในอ่าวไทย และแหล่งยาดานา ที่พม่า ว่า ปตท.พร้อมที่จะดำเนินการซื้อแหล่งปิโตรเลียมดังกล่าวหากบริษัทต่างชาติถอนตัว หากทรัพย์สินที่เสนอขายคุ้มค่า เพื่อให้ประเทศไทยมีพลังงานไว้ใช้ ทั้งนี้ ปตท.ไม่มีแนวคิดที่อยากผูกขาด และอยากให้มีผู้เล่นรายใหญ่อยู่ในธุรกิจนี้เพื่อสร้างความตื่นตัว และปรับปรุงการดำเนินงานให้ดีขึ้น