สร.ปตท.ยื่นหนังสือถึง “บิ๊กตู่” แล้ว ลั่นคืนท่อฯ ครบถ้วนตามคำสั่งศาล

สร.ปตท.ยื่นหนังสือร้องทุกข์เพื่อขอความเป็นธรรมให้ ปตท.และพนักงาน ต่อนายกรัฐมนตรีโดยมี ม.ล.ปนัดดาเป็นผู้รับหนังสือ ด้านพนักงาน ปตท.กว่า 500 คนแสดงพลังนัดรวมพลเข้าประชุมวิสามัญเพื่อรับฟังปัญหา ยืนยัน ปตท.คืนทรัพย์สินท่อฯ ครบถ้วนแล้ว

วันนี้ (18 พ.ค.) สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) (สร.ปตท.) ยื่นหนังสือขอร้องทุกข์เพื่อขอความเป็นธรรมให้แก่ บมจ.ปตท. และพนักงาน ปตท. กรณีที่ ปตท.ถูกกลุ่มบุคคลและองค์กรอิสระได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองว่า ปตท.คืนทรัพย์สินไม่ครบมาต่อเนื่องเกือบ 10 ปี รวมทั้งสื่อความต่อสาธารณชนส่งผลให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยในการดำเนินของ ปตท. โดยนำหลักฐานคำสั่งศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2551 ว่า ปตท.คืนทรัพย์สินคืนกระทรวงการคลังครบถ้วนตามคำสั่งศาลแล้วต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยมี ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับหนังสือร้องเรียนดังกล่าว

นางอัปสร กฤษณะสมิต ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บมจ.ปตท.กล่าวว่า หลั้งยื่นหนังสือต่อ ม.ล.ปนัดดาแล้วรู้สึกสบายใจขึ้น เพราะได้รับคำยืนยันว่าจะเร่งเสนอต่อนายกรัฐมนตรีให้รับทราบและพิจารณาเรื่องนี้ต่อไป

หลังจากนั้นทาง สร.ปตท.เดินทางกลับมายังสำนักใหญ่ ปตท.เพื่อประชุมวิสามัญ สร.ปตท.ครั้งที่ 1/2559 โดยมีพนักงาน ปตท.ปัจจุบัน รวมทั้งอดีตพนักงาน ปตท.เข้าร่วมรับฟังการประชุมจำนวน 500- 600 คนที่โถงด้านหน้า อาคาร 1 ของ ปตท.นับเป็นการประชุมใหญ่อีกครั้งหนึ่ง สร.ปตท.นับตั้งแต่มีการตั้งสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจที่เคยมีการประชุมเช่นนี้เมื่อสมัยทีจะมีการแปรรูปการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย เป็น บมจ.ปตท.

แหล่งข่าวระดับสูงจาก ปตท.กล่าวว่า ขณะนี้ ปตท.ยังไม่ได้รับหนังสือจากคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ที่เห็นพ้องกับผลการตรวจสอบของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ให้ไว้ก่อนศาลมีคำสั่งเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2551 ว่า ปตท.แบ่งแยกทรัพย์สินไม่เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดและมติ ครม. คาดว่าหนังสือจาก คตง.จะส่งไปที่กระทรวงต้นสังกัด คือ กระทรวงพลังงาน ซึ่งจะสั่งการให้หน่วยงานที่รับเรื่องชี้แจงหรือตั้งคณะกรรมการสอบสวน โดยจะต้องชี้แจงกลับภายใน 60 วันตามขั้นตอนตามกฎหมาย

ดังนั้น ปตท.ยังไม่ทราบรายละเอียดของหนังสือ คตง. แต่เนื่องจากคดีอยู่ในชั้นศาลปกครองสูงสุด ครั้งล่าสุด 7 เม.ย. 2559 ศาลยืนยันว่าแบ่งแยกทรัพย์สินคืนเรียบร้อยแล้ว ซึ่ง ปตท.จำเป็นต้องยึดคำสั่งศาล ดังนั้น หาก คตง.บอกว่า ปตท.คืนทรัพย์สินไม่ครบ ทางฝ่ายจัดการฯ คงไม่สามารถดำเนินการใดๆ เกินคำสั่งศาลได้ มิฉะนั้นต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ปตท.ก่อนหากจะต้องคืนทรัพย์สินเพิ่มเดิม

ส่วนประเด็นที่เรียกร้องให้ ปตท.คืนทรัพย์สินท่อเพิ่มอีก 3.26 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นท่อในทะเลและท่อบนบกบางส่วน โดยคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดได้วินิจฉัยเงื่อนไขการแบ่งแยกทรัพย์สินไว้ชัดเจน โดยทรัพย์สินที่ ปตท.แบ่งแยกและคืนให้กระทรวงการคลังนั้นคืออุปกรณ์ท่อและท่อที่อยู่บนที่ดินเวนคืนและลิดรอนสิทธิเท่านั้น ส่วนท่อและอุปกรณ์ที่อยู่บนที่ดินที่ ปตท.จัดซื้อมาไม่อยู่ในข่ายนี้รวมทั้งท่อในทะเลด้วย

ทั้งนี้ คตง.มีมติชี้ว่า ปตท.แบ่งแยกทรัพย์สินไม่เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด และไม่เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีการส่งมอบท่อส่งก๊าซธรรมชาติคืนให้กระทรวงการคลังไม่ครบ คิดเป็นมูลค่า 3.2 หมื่นล้านบาท ดังนั้น คตง.จึงมีมติส่งเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาดำเนินคดีอาญากับอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. เจ้าหน้าที่กรมธนารักษ์รวม 6 คน เนื่องจากมีพฤติการณ์ที่เชื่อว่าปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ รวมทั้งขอให้นายกรัฐมนตรี รมว.คลัง รมว.พลังงาน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. และผู้เกี่ยวข้องดำเนินการให้มีการส่งมอบท่อก๊าซที่ขาดไไปคืนให้กับกระทรวงการคลัง โดยให้ ครม.ยืนคำร้องต่อศาลปกครองสูงสุดเพื่อให้บังคับคดีถูกต้องครบถ้วนต่อไปภายใน 60 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งจาก สตง.