xs
xsm
sm
md
lg

สร.ปตท.ยื่นหนังสือถึง “บิ๊กตู่” 18 พ.ค.นี้ ขอความเป็นธรรมหลัง ปตท.ถูกบี้คืนทรัพย์สินไม่ครบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สร.ปตท.เตรียมยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อ “บิ๊กตู่” 18 พ.ค.นี้ เพื่อขอความเป็นธรรม และยังเป็นการแสดงจุดยืน และศักดิ์ศรีของพนักงาน ปตท. หลัง ปตท.ถูกฟ้องร้องต่อศาลปกครองคดีแบ่งแยกทรัพย์สินคืนกระทรวงการคลังไม่ครบอย่างต่อเนื่องนานเกือบ 10 ปี ทั้งๆ ที่ศาลมีคำสั่งแล้วว่า ปตท.ได้คืนทรัพย์สินครบถ้วนตามคำพิพากษา ดังนั้น ควรยุติการฟ้องร้อง ปตท.กรณีดังกล่าวได้แล้ว

น.ส.อัปสร กฤษณะสมิต ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในวันที่ 18 พ.ค.นี้ ทางสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (สร.ปตท.) จะยื่นหนังสือร้องทุกข์เสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี เพื่อขอความเป็นธรรมให้แก่ ปตท. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของชาติ หลังจาก ปตท.ถูกฟ้องร้องต่อศาลปกครองฯ คดีคืนทรัพย์สินไม่ครบถ้วนตามคำพิพากษา ทั้งๆ ที่ศาลเองก็มีคำสั่งว่า ปตท.ได้คืนทรัพย์สินครบถ้วนแล้วก็ตาม

การยื่นหนังสือร้องทุกข์ดังกล่าวข้างต้นยังเป็นการแสดงจุดยืนด้วยความสุจริตใจ ร่วมปกป้ององค์กร และศักดิ์ศรีพนักงาน ปตท. ร่วมกัน โดย สร.ปตท. จะยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อรัฐบาล ณ ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 18 พ.ค.นี้ เวลา 10.30-11.00 น. รวมทั้งยังได้กำหนดจัดประชุมใหญ่วิสามัญ สร.ปตท.ครั้งที่ 1/2559 ตั้งแต่ 13.00 น.เป็นต้นไป ณ ห้องโถงด้านหน้า สำนักงานใหญ่ ปตท. ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ

นับตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค.2550 ที่ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษา และวินิจฉัยเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ต้องคืนให้แก่รัฐ ซึ่งฟ้องร้องโดยมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ซึ่งต่อมา ได้มีการดำเนินการจนกระทั่งได้มีการแบ่งแยกทรัพย์สินคืนกระทรวงการคลังครบถ้วน และศาลปกครองสูงสุด ได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2551 ว่า ปตท.ได้ดำเนินการตามคำพิพากษาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ผู้ฟ้องก็ยังคงฟ้องร้อง และพยายามให้ข้อมูลสาธารณชนว่า ปตท.ยังคืนทรัพย์สินไม่ครบ และฟ้องร้องต่อศาลอีกหลายครั้ง ซึ่งครั้งสุดท้ายศาลฯ ได้มีคำสั่งไม่รับฟ้องเมื่อวันที่ 7 เม.ย.2559

เมื่อวันที่ 4 เม.ย.2559 ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ฟ้องร้องต่อศาลปกครองต่อกรณีดังกล่าวอีก โดยครั้งนี้มีประเด็นข้อสงสัย สหภาพแรงงานที่คัดค้านการแปรรูป แต่ถูกปิดปากด้วยหุ้นที่ให้แก่ฝ่ายบริหาร และพนักงาน ซึ่งเป็นการกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริง เป็นการดูหมิ่นสหภาพแรงงาน และพนักงาน ปตท.เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากการให้สิทธิพนักงานในการจองซื้อหุ้น ปตท.นั้นเป็นส่วนหนึ่งของโครงการให้พนักงานมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของ (ESOP) ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติของบริษัทชั้นนำของโลกที่ดำเนินการเป็นไปด้วยความสุจริตตามหลักธรรมาภิบาล

อีกทั้งเมื่อวันที่ 10 พ.ค.2559 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่มีหน้าที่กำกับดูแลสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เห็นฟ้องต่อผลการตรวจสอบของ สตง.ที่ให้ไว้ก่อนมีคำสั่งศาลเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2551 ว่า ปตท.แบ่งแยกทรัพย์สินไม่เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด และมติคณะรัฐมนตรี ทั้งๆ ที่วันที่ 20 ก.พ.2552 สตง.ได้มีหนังสือแจ้งต่อ ปตท. และเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ว่า ปตท.แบ่งแยกทรัพย์สินไม่ครบ แต่ให้ถือคำวินิจฉัยของศาลเป็นที่ยุติ

การดำเนินการครั้งแล้วครั้งเล่าสร้างความเคลือบแคลงสงสัยในการทำงานของ ปตท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อรัฐ กรณีการปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดว่ายังไม่ครบถ้วน ย่อมเป็นอุปสรรคต่อการเจริญก้าวหน้าของ ปตท. ที่เป็นรัฐวิสาหกิจสมบัติของชาติ อีกทั้งเป็นการบั่นทอนกำลังใจของพนักงาน ปตท.

ทั้งนี้ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ปตท.เห็นว่า คำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2551 หนังสือของ สตง.ถึงศาลปกครองเมื่อวันที่ 20 ก.พ.2552 และหนังสือจากศาลปกครองถึงสตง.เมื่อวันที่ 10 มี.ค.2552 ซึ่งแจ้งไปยัง สตง.ว่า ผู้ถูกฟ้องดำเนินการตามคำพิพากษาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มติคณะรัฐมนตรีรับทราบเรื่องการแบ่งแยกทรัพย์สินเมื่อวันที่ 10 ส.ค.2553 รวมถึงล่าสุด คำสั่งศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่ 7 เม.ย.2559 ที่ยังมีคำสั่งไม่รับฟ้องของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคที่ยื่นต่อศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่ 21 พ.ค.2558 ขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลฯ เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2551 นั้นล้วนเป็นข้อมูลที่ควรสร้างความมั่นใจว่า ปตท.ได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาครบถ้วนแล้ว และควรยุติการฟ้องร้องต่อศาลว่า ปตท.คืนทรัพย์สินไม่ครบถ้วนตามคำพิพากษาที่มีอย่างยาวนานเกือบทศวรรษได้แล้ว

“แต่ด้วยยังมีการเสนอให้มีการฟ้องร้องต่อศาลปกครองอีก โดยครั้งนี้ผู้เสนอได้นำเรียนให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลฯ ด้วย ดังนั้น สร.ปตท.จึงตัดสินใจนำเรื่องร้องทุกข์เสนอต่อนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีเพื่อขอความเป็นธรรมให้แก่ ปตท.ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของชาติที่จำเป็นต้องได้รับความเชื่อมั่นใจจากนักลงทุนเพื่อความมั่นคงขององค์กร ที่มีผลต่อความมั่นคงด้านพลังงาน ทางสหภาพแรงงานฯ ของยืนยันว่า การดำเนินการแปรรูป ปตท.เป็นเป็นบริษัท (มหาชน) นั้น สหภาพแรงงานฯ และพนักงานได้มีส่วนร่วมในการแปรรูป ปตท.อย่างจริงจัง โดย ปตท.ยังคงสถานการณ์เป็นรัฐวิสาหกิจ และปัจจุบัน ยังคงปฏิบัติภารกิจเพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติ และประชาชนได้เช่นเดียวกับการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย”
กำลังโหลดความคิดเห็น