ภัยแล้งดันราคาข้าวพุ่งสูงสุดในรอบ 2 ปี ทั้งข้าวเปลือก ข้าวสาร และข้าวส่งออก เผยราคาข้าวเปลือกทะลุตันละ 9,000 บาทแล้ว ส่วนราคาส่งออกเพิ่มเป็น 424 เหรียญสหรัฐต่อตัน โรงสีชี้เป็นราคาที่ดีสุดตั้งแต่รัฐบาลนี้เข้ามา ส่วนผู้ส่งออกระบุราคาส่งออกดีดตัวขึ้น เหตุมีคำสั่งซื้อเข้ามา ด้าน “อภิรดี” บินถกจีนรับมอบข้าว 1 ล้านตันตามสัญญาซื้อขาย
รายงานข่าวจากสมาคมโรงสีข้าวไทยว่า ราคาข้าวเปลือก 5% (ความชื้น 15%) ราคาปัจจุบัน (ณ วันที่ 13 พ.ค.) อยู่ที่ 8,500-9,000 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงวันที่ 29 เม.ย. ที่ราคาข้าวเปลือกอยู่ที่ 8,200-8,400 บาท/ตัน ส่งผลให้ราคาข้าวสารเจ้าราคาปัจจุบันอยู่ที่ 1.35-1.36 หมื่นบาท/ตัน เพิ่มขึ้นจาก 1.27-1.29 หมื่นบาท/ตัน ขณะที่ราคาส่งออกข้าวได้ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน โดยราคาส่งออกข้าวขาว 5% อยู่ที่ 424 เหรียญสหรัฐ/ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงวันที่ 27 เม.ย. ที่ราคาส่งออกข้าวขาว 5% อยู่ที่ 399 เหรียญสหรัฐ/ตัน ส่วนราคาส่งออกข้าวนึ่งปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 439 เหรียญสหรัฐ/ตัน เพิ่มขึ้นจาก 410 เหรียญสหรัฐ/ตัน
นายมานัส กิจประเสริฐ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า ราคาข้าวสารได้ปรับเพิ่มขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างรวดเร็ว โดยมาอยู่ที่ 1.3 หมื่นบาท/ตัน เพิ่มขึ้นจาก 1.2 หมื่นบาท/ตัน หรือปรับขึ้นเฉลี่ยสัปดาห์ละ 500 บาท/ตัน ส่งผลให้โรงสีต้องไล่ซื้อข้าวเปลือกในตลาดจากก่อนหน้านี้เคยซื้อ 8,000 บาท/ตัน ขึ้นเป็น 9,000 บาท/ตัน แต่ราคาดังกล่าวชาวนาจะได้รับผลประโยชน์ไม่มาก เพราะผลผลิตข้าวเปลือกปรับลดลงจากภัยแล้ง และข้าวส่วนใหญ่ออกมาก่อนหน้านี้เกือบหมดแล้ว
“ราคาข้าวในตลาดปัจจุบันที่ปรับขึ้นเป็นราคาสูงสุดนับตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศ หรือสูงสุดในรอบ 2 ปี แต่ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ฝน ถ้าตกตามที่คาดการณ์ไว้ช่วงปลายเดือนนี้จะทำให้ข้าวนาปรังที่ออกเดือน ส.ค.-ก.ย.ได้ผลผลิตดี ทำให้ราคาข้าวลดความร้อนแรง แต่ถ้าไม่เป็นไปตามคาดการณ์ต้องจับตาดูราคาข้าวอย่างใกล้ชิดต่อไป” นายมานัสกล่าว
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ขณะนี้ราคาข้าว โดยเฉพาะข้าวขาวและข้าวนึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เฉลี่ย 20-30 เหรียญสหรัฐ/ตัน สาเหตุมาจากตลาดแอฟริกาเริ่มมีการนำเข้าเพิ่มมากขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ชะลอการซื้อไป โดยข้าวที่ส่งไปส่วนใหญ่เป็นข้าวนึ่ง ซึ่งใช้ข้าวเปลือกใหม่ ทำให้เกิดการแย่งซื้อในตลาด ส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกในตลาดปรับเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
“เป้าหมายส่งออกข้าว 9 ล้านตันเป็นไปได้แน่นอนถ้าดูจากสถานการณ์ขณะนี้ และเชื่อว่าครึ่งปีหลังตลาดนำเข้าข้าวใหญ่ๆ เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ จะเริ่มนำเข้าข้าว ทำให้แนวโน้มราคาข้าวจากนี้ไปอยู่ในทิศทางขาขึ้น” นายชูเกียรติกล่าว
ด้านนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมาได้นำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการบริหารร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านการค้าสินค้าเกษตรระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 4 ที่กรุงปักกิ่ง โดยไทยได้เร่งรัดให้รัฐบาลจีนรับมอบข้าวตามสัญญาการซื้อขายข้าว 1 ล้านตัน ที่ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) ความร่วมมือด้านการค้าสินค้าเกษตรระหว่างไทย-จีน และขอให้ปรับเปลี่ยนประเภทข้าวที่จะส่งมอบจากเดิมเป็นข้าวในสต๊อกรัฐบาลเป็นข้าวฤดูกาลใหม่ เพื่อให้ไทยมีตลาดรองรับผลผลิตข้าวฤดูใหม่ที่จะออกมาจนถึงสิ้นปี 2560
ทั้งนี้ นายหวัง เสี่ยวเทา รองผู้อำนวยการคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) ได้รับปากว่าจะเร่งให้บริษัทคอฟโก้ ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของจีน ดำเนินการนำเข้าข้าว 1 ล้านตันที่ได้ทำสัญญาไว้แล้วให้สำเร็จลุล่วงโดยเร็ว และจะนำประเด็นที่ไทยขอเปลี่ยนข้าวเก่าเป็นข้าวใหม่ 1 ล้านตัน หารือคอฟโก้และผู้นำรัฐบาลต่อไป
สำหรับการซื้อขายสินค้าเกษตรอื่นๆ เช่น ยางพารา 2 แสนตัน ที่ได้ลงนามซื้อขายไปแล้ว ล่าสุดได้มีการทยอยส่งมอบแล้วเช่นเดียวกัน ซึ่งไทยได้เสนอขอให้จีนพิจารณาซื้อสินค้าเกษตรอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าวโพด น้ำมันปาล์ม และผลไม้ โดยขอให้รัฐบาลจีนมอบหมายเจ้าหน้าที่ให้เริ่มหารือในรายละเอียดว่าจะซื้อขายกันอย่างไรโดยเร็ว