เอกชนสนใจยื่นซองตรวจสอบคุณสมบัติประมูลข้าวครั้งที่ 2/59 ปริมาณ 6.4 แสนตันคึกคัก ยื่นซื้อข้าวทั่วไป 42 ราย และเข้าอุตสาหกรรม 7 ราย เตรียมเปิดให้ผู้ผ่านคุณสมบัติยื่นเสนอราคาวันที่ 30-31 มี.ค.นี้ “อภิรดี” มั่นใจได้ราคาดี และระบายข้าวได้มาก หลังมีผู้แข่งขันมาก สมาคมข้าวเผยส่วนใหญ่รอแย่งประมูลข้าวเหนียว เหตุผลผลิตน้อย ราคาพุ่ง
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า วันที่ 28 มี.ค. กรมการค้าต่างประเทศได้เปิดให้ภาคเอกชนที่สนใจจะยื่นประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล ครั้งที่ 2/2559 ปริมาณกว่า 6.4 แสนตัน แยกเป็นข้าวทั่วไป 4.18 แสนตัน และข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม 2.23 แสนตัน ยื่นซองเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ โดยมีผู้ให้ความสนใจยื่นซองตรวจสอบคุณสมบัติกันเป็นจำนวนมาก ในการประมูลข้าวทั่วไปมีผู้ยื่นตรวจสอบคุณสมบัติจำนวน 42 ราย และข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมจำนวน 7 ราย
ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติและเปิดให้ผู้ที่ผ่านคุณสมบัติ ยื่นซองเสนอราคาในวันที่ 30 มี.ค. สำหรับข้าวทั่วไป และวันที่ 31 มี.ค. สำหรับข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การที่มีผู้สนใจเข้ามายื่นซองตรวจสอบคุณสมบัติเป็นจำนวนมาก ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เพราะจะทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคา และทำให้รัฐระบายข้าวในสต๊อกได้ราคาดีขึ้น
ส่วนกรณีการที่ไทยประกาศลงทุนทำรถไฟความเร็วสูงเองจะไม่กระทบต่อสัญญาการซื้อขายข้าวกับจีน 2 ล้านตัน และยางพารา 2 แสนตัน เพราะข้อตกลงยังคงดำเนินต่อไป แต่รถไฟความเร็วสูงเป็นการปรับรูปแบบการลงทุนเท่านั้น เป็นไทยลงทุนเอง แต่ด้านเทคโนโลยีและรถไฟยังคงใช้ของจีน
ด้านนายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า สาเหตุที่เอกชนสนใจเข้าร่วมประมูลข้าวเป็นการทั่วไปจำนวนมากถึง 42 ราย เป็นเพราะกระทรวงพาณิชย์นำข้าวเหนียวและปลายข้าวเหนียวมาเปิดประมูลด้วยซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด โดยขณะนี้ราคาข้าวเหนียวในตลาดได้ปรับตัวสูงมาก ราคาส่งออกข้าวเหนียวในปัจจุบันได้ปรับขึ้นมาสูงถึงตันละ 814 เหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากระดับปกติที่ราคาส่งออกข้าวเหนียวเฉลี่ยอยู่ประมาณตันละ 600 เหรียญสหรัฐ เป็นผลจากผลผลิตข้าวเปลือกเหนียวฤดูกาลนี้ปรับตัวลดลง 10-15% จากผลผลิตปกติอยู่ที่ 4-5 ล้านตัน
“ราคาข้าวเหนียวในปัจจุบันสูงกว่าข้าวหอมมะลิแล้ว เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นนานๆ ครั้ง โดยราคาส่งออกข้าวหอมมะลิปัจจุบันอยู่ที่ตันละ 770 เหรียญสหรัฐ แต่ข้าวเหนียวขึ้นไปถึงตันละ 814 เหรียญสหรัฐ ทำให้โรงสีต่างเร่งซื้อเพื่อเก็บสต๊อกเพราะผลผลิตลดน้อยลง จึงมีการเข้าแย่งซื้อข้าวในการเปิดประมูลรอบนี้จำนวนมาก” นายชูเกียรติกล่าว
สำหรับข้าวที่นำมาประมูลครั้งที่ 2/2559 ที่จะเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาในวันที่ 30-31 มี.ค. 2559 ประกอบด้วย 1. การจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกของรัฐเป็นการทั่วไป ปริมาณ 4.18 แสนตัน เป็นชนิดข้าวที่มีคุณภาพตามมาตรฐานและใกล้เคียงมาตรฐาน (ระดับคุณภาพเกรด P/A/B) ประกอบด้วยข้าวขาว 5% 10% 15% 25% ข้าวเหนียวขาว 10% ข้าวปทุมธานี ปลายข้าว (เหนียว) A1 ปลายข้าว A1 เลิศ ปลายข้าวหอมมะลิ ข้าวท่อนหอมมะลิ และข้าวท่อนหอมปทุม รวมจำนวน 66 คลัง ใน 26 จังหวัด และ 2. การจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรม ปริมาณ 2.23 แสนตัน เป็นข้าวผิดไปจากมาตรฐาน และข้าวผิดชนิด ประกอบด้วยข้าวขาว 5% ปลายข้าว (เหนียว) A1 และปลายข้าว A1 เลิศ รวมจำนวน 22 คลัง ใน 9 จังหวัด