xs
xsm
sm
md
lg

SCC ฟุ้งมาร์จิ้นปิโตรเคมีสูงต่อเนื่อง 2-3 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ปูนซิเมนต์ไทย” มั่นใจมาร์จิ้นปิโตรเคมียังสดใสต่อเนื่องไปอีก 2-3 ปีนี้หลังได้รับอานิสงส์ราคาน้ำมันตกต่ำ ส่วนโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ที่เวียดนามเร่งหาพันธมิตรใหม่สวมแทนกาตาร์ที่ถอนตัวไป คาดชัดเจนภายใน 6 เดือนนี้

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC) เปิดเผยว่าจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงทำให้ราคาแนฟทาซึ่งเป็นวัตถุดิบได้ปรับตัวลดลงตาม ทำให้ส่วนต่างราคาเม็ดพลาสติกกับวัตถุดิบ (สเปรด) สูงขึ้น รวมทั้งการขยายกำลังการผลิตปิโตรเคมีใหม่ลดน้อยขณะที่ความต้องการปิโตรเคมียังสูงอยู่ เชื่อสเปรดปิโตรเคมีจะยังสูงเช่นนี้ต่อไปอีก 2-3 ปีนี้ หลังจากนั้นจะเข้าสู่ภาวะปกติ

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้มีการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนามาตลอด เพื่อผลิตสินค้ามูลค่าเพิ่ม ทำให้รักษากำไรของธุรกิจปิโตรเคมีไว้ได้

นายรุ่งโรจน์กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ที่ประเทศเวียดนาม ว่า ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างหาพันธมิตรใหม่แทน QPI Vietnam บริษัทย่อยของกาตาร์ ปิโตรเลียม ที่ถอนตัวไป คาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน 6 เดือนนี้เช่นเดียวกับการจัดหาแหล่งเงินกู้โครงการดังกล่าว

เดิมโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ ทางกลุ่ม SCC ถือหุ้น 46% QPIV 25% และปิโตรเวียดนาม และวีนาเคม 29%

ส่วนความคืบหน้าโครงการลงทุนในต่างประเทศนั้นได้เปิดโรงปูนซีเมนต์ในประเทศอินโดนีเซียและการขยายกำลังการผลิตในกัมพูชาในปี 2558 ส่วนโรงปูนซีเมนต์ในประเทศพม่า และ สปป.ลาวจะเริ่มผลิตได้ในปี 2559 และปี 2560 ตามลำดับ

สำหรับผลการดำเนินงานปี 2558 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 4.39 แสนล้านบาท ลดลง 10% จากปีก่อน เนื่องจากราคาสินค้ากลุ่มเคมีภัณฑ์ปรับตัวลงมากตามราคาน้ำมัน แต่เนื่องจากบริษัทให้ความสำคัญด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า (HVA) และขยายธุรกิจไปในภูมิภาคอาเซียน ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 4.54 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% จากปีก่อน ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์
กำลังโหลดความคิดเห็น