รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEM) หนุนผลักดันอาเซียนเป็นครัวของโลก เตรียมจัดงานแฟร์อาหารอาเซียนในปีหน้า ก่อนดึงนานาชาติมาดูศักยภาพ พร้อมเดินหน้าทำแผนช่วยผู้ประกอบการรายย่อย เล็ก กลาง เข้าสู่ภาคธุรกิจ ตั้งเป้าเจรจา RCEP ให้จบภายในปีนี้ หวังขยายการค้า การลงทุนกับคู่เจรจาเพิ่มขึ้น ดึงมาเลเซียร่วมพัฒนา CLMV กับไทย
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (AEM Retreat) ครั้งที่ 22 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 2-3 มี.ค. 2559 ที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมได้มีการหารือถึงแนวทางในการสนับสนุนให้อาเซียนเป็นผู้ผลิตวัตถุดิบในการประกอบอาหารของโลก ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของไทยที่จะพัฒนาเป็นครัวของโลก เพราะอาเซียนมีทรัพยากรด้านอาหารที่เพียงพอและมีคุณภาพ โดยในปีหน้าจะมีการจัดงานแสดงสินค้าด้านอาหารที่จะปรับรูปแบบให้เป็นการจัดงานของอาเซียน และจะเชิญผู้ประกอบการอาหารอาเซียนมานำเสนอสินค้าของแต่ละประเทศให้กับนานาชาติได้รับทราบ เพื่อแสดงความพร้อมของอาเซียนในการเป็นครัวของโลก
ส่วนความร่วมมือในการพัฒนาผู้ประกอบการขนาดย่อย ขนาดเล็ก และขนาดกลาง (MSMEs) อาเซียนได้หารือถึงแนวทางในการผลักดันให้ผู้ประกอบการเหล่านี้เข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น เพื่อให้สามารถเติบโตในการทำธุรกิจ และยังได้หารือถึงการลดอุปสรรคเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัทข้ามประเทศในอาเซียน เพราะปัจจุบันมีปัญหาความล่าช้าในการจัดตั้งบริษัทย่อยในประเทศอาเซียนด้วยกัน ซึ่งหากลดอุปสรรคลงได้จะทำให้เกิดการขยายการค้าและลงทุนเพิ่มขึ้น
นางอภิรดีกล่าวว่า อาเซียนยังได้หารือถึงการจัดทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ระหว่าง 10 ประเทศอาเซียน กับประเทศคู่เจรจา 6 ประเทศ ได้แก่ จีน อินเดีย เกาหลี ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งจะต้องสรุปผลการเจรจาภายในปี 2559 ตามที่ผู้นำอาเซียนได้ประกาศไว้ เพื่อนำไปสู่การเป็นตลาดที่ใหญ่ขึ้นด้วยประชากร 3.4 พันล้านคน โดยจะมีการเชื่อมโยงเครือข่ายการผลิต การค้า การลงทุน การปรับกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้าให้สอดคล้องกัน ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนของภาคเอกชนได้มากกว่าความตกลง FTA ที่อาเซียนกับคู่เจรจามีอยู่ในปัจจุบัน และยังต้องเร่ง RCEP ให้จบ เพื่อแข่งกับความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ด้วย
สำหรับการผลักดันเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม) ที่ประชุมได้ให้ไทยและมาเลเซียเข้าไปมีบทบาทในการช่วยเหลือและพัฒนาให้มีความเข้มแข็งเพิ่มขึ้น เพราะอาเซียนมองว่า CLMV เป็นกลุ่มประเทศในอาเซียนที่จะมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้ดี แม้ในช่วงภาวะที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัวจนกระทบต่อภูมิภาคอาเซียน โดยในเร็วๆ นี้จะมีการจัดประชุม CLMV-MT ฟอรัม ซึ่งไทยจะเน้นการแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน
นอกจากนี้ อาเซียนยังได้หารือถึงการให้สหรัฐฯ เข้ามาตั้งจุดเชื่อมโยงด้านอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างสหรัฐฯ กับอาเซียน โดยจะตั้งศูนย์อยู่ใน 3 ประเทศ คือ ไทย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ เพื่อให้เกิดความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน การพัฒนาเทคโนโลยี และพลังงานระหว่างกัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างที่สหรัฐฯ จะส่งเรื่องมาอย่างเป็นทางการ
