xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” ปั้นหมู่บ้านทำมาค้าขาย ตั้งเป้าเปิด 10 แห่งปีนี้ นำร่องหมู่บ้านประมง กาแฟ ปศุสัตว์ เกษตรอินทรีย์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“พาณิชย์” เดินหน้าปั้น “หมู่บ้านทำมาค้าขาย” ตั้งเป้าเปิดให้ได้ 10 แห่งในปีนี้ หลังได้งบกลางปี 55 ล้านบาท นำร่องทำเปิดหมู่บ้านประมง ปศุสัตว์ กาแฟ หมู ไก่ หัตถกรรม เกษตรอินทรีย์ พร้อมดึงหอการค้าไทยเข้ามาร่วมผลักดัน

น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้จัดทำโครงการ “หมู่บ้านทำมาค้าขาย” เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดให้กับประชาชนและธุรกิจในหมู่บ้าน และใช้เป็นแหล่งในการดึงดูดการท่องเที่ยว โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการส่งทีมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปตรวจสอบว่าจะผลักดันหมู่บ้านไหนให้เป็นโครงการนำร่อง หลังจากที่กรมฯ ได้รับงบประมาณกลางปีจำนวน 55 ล้านบาท ที่จะนำมาใช้ในการสนับสนุนและจัดทำโครงการให้เป็นผลสำเร็จ

“ตั้งเป้าไว้ว่าปีนี้จะผลักดันให้เกิดหมู่บ้านทำมาค้าขายอย่างน้อย 10 หมู่บ้าน ซึ่งกำลังลงพื้นที่ไปดูอยู่ว่าจะเริ่มที่ไหนก่อน โดยเบื้องต้นได้สำรวจหมู่บ้านต่างๆ ไปแล้ว เช่น หมู่บ้านประมง และสะพานปลา ที่ประจวบคีรีขันธ์ และระยอง หมู่บ้านกาแฟ ที่เชียงใหม่ หมู่บ้านปศุสัตว์ ทั้งวัวนม หมู ไก่ ที่ราชบุรี สระบุรี และนครปฐม หมู่บ้านผลไม้ และปาล์ม ที่จังหวัดภาคใต้ และกำลังดูหมู่บ้านที่เป็นเกษตรอินทรีย์ และหมู่บ้านหัตถกรรม เมื่อได้หมู่บ้านชัดเจนแล้ว ก็จะมาสรุปแล้วทำแผนผลักดันต่อไป”

สำหรับแนวทางในการพัฒนาหมู่บ้านทำมาค้าขายจะเข้าไปสำรวจดูว่าหมู่บ้านนี้ผลิตสินค้าอะไร ขายกันตรงไหน จะเข้าไปผลักดันให้มีการรวมตัวกัน จัดที่ค้าขายให้เป็นรูปแบบเดียวกัน หรือปรับมาตรฐานร้านค้าให้ใกล้เคียงกัน จากนั้นจะร่วมมือกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยฝึกอบรมในการทำธุรกิจ ทั้งการทำบัญชี การทำการตลาด และช่วยในการเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มธุรกิจ เพื่อให้เกิดการต่อยอดในการจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้น หรือหากเป็นกลุ่มสินค้าหัตถกรรม ก็จะประสานให้ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ เข้าไปช่วยพัฒนาสินค้าให้

ยกตัวอย่างเช่น หมู่บ้านประมง ที่ปกติในหมู่บ้านก็จะมีการทำประมง แล้วนำอาหารทะเลที่จับได้มาจำหน่ายกันอยู่แล้ว ก็จะเข้าไปช่วยปรับปรุงแผงค้าให้มีมาตรฐาน ผลักดันให้คนเข้าไปซื้ออาหารประมงสดๆ หรือหากในพื้นที่มีร้านอาหารอร่อยที่ใช้วัตถุดิบประมงจากหมู่บ้านดังกล่าวก็จะโฆษณาประชาสัมพันธ์เพื่อให้คนเดินทางไปรับประทานอาหาร ส่วนในหมู่บ้าน หากมีคนอยากดูวิถีชีวิตการทำประมงก็จะส่งเสริมให้คนเข้าไปดู เข้าไปท่องเที่ยว เป็นต้น

น.ส.วิบูลย์ลักษณ์กล่าวว่า กรมฯ ยังจะร่วมมือกับภาคเอกชนในการผลักดันหมู่บ้านทำมาค้าขาย โดยเฉพาะหอการค้าไทย ที่มีโครงการ 1 บริษัท 1 ชุมชน ที่ได้มอบหมายให้บริษัทที่เป็นสมาชิกเข้าไปช่วยเหลือชุมชนต่างๆ ในการช่วยพัฒนาสินค้า พัฒนาการผลิต พัฒนาการเพาะปลูกพืชเกษตร แล้วช่วยในการจัดหาตลาดให้ ซึ่งกรมฯ จะขอความร่วมมือให้เข้ามาช่วยพัฒนาหมู่บ้านทำมาค้าขาย โดยให้ขยายใหญ่ขึ้นจากชุมชนเป็นหมู่บ้าน แล้วส่งเสริมเต็มรูปแบบ ให้หมู่บ้านมีการค้าขายได้เอง แทนที่จะพึ่งพาผู้ซื้อจากที่อื่น แล้วผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ให้คนเดินทางไปเที่ยว ไปซื้อสินค้า ซึ่งจะทำให้หมู่บ้านมีความเข้มแข็งขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น