“พาณิชย์” ร่วมทัพ “สมคิด” นำเอกชนลุยเปิดตลาดการค้าการลงทุนที่อิหร่าน

“พาณิชย์” ร่วมคณะ “สมคิด” นำทัพภาคเอกชนลุยเปิดตลาดการค้าการลงทุน หลังนานาชาติเลิกคว่ำบาตรอิหร่าน มั่นใจมีมูลค่าซื้อขายไม่ต่ำกว่า 1 พันล้าน พร้อมเปิดตลาดส่งออกข้าวไทยได้เพิ่มขึ้นด้วย

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายก รัฐมนตรีจะนำภาครัฐและภาคเอกชนไทยเยือนรัฐสุลต่านโอมาน และสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ระหว่างวันที่ 31 ม.ค. - 4 ก.พ. 2559 เพื่อตอกย้ำความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน หลังจากที่นานาชาติได้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านอย่างเป็นทางการ ทำให้อิหร่านสามารถดำเนินการด้านการค้าได้อย่างคล่องตัว จึงเป็นโอกาสของไทยที่เดินทางไปขยายตลาดเป็นประเทศแรกๆ

ทั้งนี้ กระทรวงฯ จะนำผู้ประกอบการในกลุ่มเกษตรและอาหาร ยางพารา วัสดุก่อสร้าง ชิ้นส่วนยานยนต์ แฟชั่น สุขภาพความงาม เครื่องใช้ไฟฟ้า ของตกแต่งบ้าน และกลุ่มพลังงานและก่อสร้าง รวมกว่า 70 ราย ไปจับคู่เจรจาการค้ากับนักธุรกิจ ผู้ซื้อ ผู้นำเข้าชาวอิหร่านด้วย

โดยสินค้าที่ได้วางแผนการเจาะตลาดอิหร่าน คือ ข้าว ยางพารา อาหารฮาลาล น้ำตาล ชิ้นส่วนยานยนต์ และธุรกิจบริการเป้าหมาย คือ ธุรกิจบริการก่อสร้าง รวมทั้งส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชน ในด้านธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร

ขณะเดียวกัน ได้จัดทัพให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ของไทย อาทิ เครือสหพัฒนพิบูล บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย บริษัท น้ำตาลมิตรผล บริษัท ศรีตรัง บริษัท วงศ์บัณฑิต บริษัท สยามแก๊ส และบริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ เป็นหัวเรือสำคัญนำกองทัพสินค้าไทยบุกเจาะตลาดอิหร่าน โดยคาดว่าจะมีมูลค่าสั่งซื้อสินค้าไทยจากการเจรจาครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท และยังได้นำสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยนำคณะไปแสวงหาลู่ทางขยายตลาดส่งออกข้าวไทยไปยังอิหร่านให้มากขึ้นด้วย

นางอภิรดีกล่าวว่า การเข้าพบหารือกับบุคคลสำคัญ คณะมีกำหนดเข้าพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม ประธานสภาหอการค้าและอุตสาหกรรม และประธานองค์การการค้าและการลงทุนของโอมาน เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าระหว่างไทย-โอมาน ส่งเสริมการจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้า และความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการค้าการลงทุนระหว่างกัน ตลอดจนเจรจาเพื่อเพิ่มช่องทางในการส่งออกสินค้าสำคัญ อาทิ ไก่สดแช่แข็ง สินค้าประมง และอาหารแปรรูป เป็นต้น

นอกจากนี้จะเข้าเยี่ยมคารวะประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี ของอิหร่าน พร้อมทั้งเข้าพบหารือกับรองประธานาธิบดีฝ่ายบริหาร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เหมืองแร่และการค้า ผู้ว่าการธนาคารกลางอิหร่าน ประธานองค์กรส่งเสริมการค้า และประธานหน่วยงานการค้าภาครัฐของอิหร่าน รวมทั้งจะมีพิธีลงนามบันทึกความตกลงทางการค้าระหว่างรัฐบาลไทยกับสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน โดยมีรองนายกรัฐมนตรีเป็นสักขีพยาน เพื่อขยายความร่วมมือด้านการค้าของทั้งสองประเทศในระยะยาวต่อไป