xs
xsm
sm
md
lg

อคส.เรียกผู้ชนะประมูลข้าวเสีย ชี้แจงวิธีการขนข้าว พร้อมขอตรวจโรงงานอีกครั้ง ก่อนเซ็นสัญญา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“อคส.” เรียกผู้ชนะการประมูลข้าวเสีย 2 ราย ชี้แจงวิธีการขนย้ายก่อนทำสัญญา ยันต้องขนกลางวัน มีระบบตรวจสอบตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิดในโรงงาน เตรียมตรวจโรงงานอีกครั้ง 29 ธ.ค.นี้ หากทุกอย่างพร้อมเซ็นสัญญาได้ทันที

พล.ต.ต.ไกรบุญ ทรวดทรง ประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า วันที่ 25 ธ.ค. 2558 ได้เชิญบริษัทที่ชนะการประมูลข้าวเสื่อมในสต๊อกรัฐบาลจำนวน 2 ราย มาหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้แทนจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อทำความเข้าใจแนวทางการรับมอบและขนย้ายข้าวออกจากคลัง โดย อคส.ต้องการให้เกิดความโปร่งใสและนำข้าวไปใช้ตรงวัตถุประสงค์ของการประมูล คือ นำข้าวไปใช้ในภาคอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ ได้กำหนดขั้นตอนการขนย้ายข้าวที่ต้องมีการตรวจสอบเข้มงวด เช่น ให้ขนย้ายเวลากลางวัน มีกำหนดจุดตรวจเพื่อตรวจสอบพร้อมบันทึกภาพถ่ายรถบรรทุกและส่งผ่านระบบไลน์จากต้นทางจนถึงปลายทาง ก่อนส่งต่อไปยังวอร์รูมเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวโดยรวม

สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ วันที่ 29 ธ.ค. 2558 อคส.พร้อมเจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่โรงงานอุตสาหกรรมทั้ง 2 ราย เพื่อดูความพร้อมการรับสินค้าและการส่งเข้าสู่กระบวนการผลิต รวมทั้งกำหนดจุดที่จะติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อตรวจสอบติดตามกระบวนการผลิตของทั้ง 2 โรงงาน ซึ่งทั้ง 2 ราย ยินดีให้ความร่วมมือติดตั้งกล้องในจุดต่างๆ ได้ ยกเว้นเพียงจุดที่เป็นความลับทางการค้า จึงขอให้เชื่อมั่นในกระบวนการการทำงานที่ต้องการให้เกิดความโปร่งใส

“หากการลงพื้นที่พบว่าไม่มีความพร้อม อาจไม่มีการทำสัญญาซื้อขายข้าวก็เป็นได้ แต่หากพร้อมก็สามารถทำสัญญาได้ก่อนวันที่ 8 ม.ค. 2559 และเริ่มขนย้ายวันถัดไปได้ทันที โดยหากบริษัทไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงหรือเงื่อนไขสัญญาจะต้องเสียค่าปรับที่ 0.2% ของมูลค่าสินค้าที่ประมูลได้ ส่วนกรณีนำข้าวไปใช้ผิดวัตถุประสงค์จะถูกปรับอีก 25% ของมูลค่าสินค้า พร้อมถูกดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา เพื่อป้องกันการแปรรูปข้าวไปสู่ผลิตภัณฑ์อื่นหรือนำข้าวเสียกลับสู่ตลาดเพื่อการบริโภค” พล.ต.ต.ไกรบุญกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ว.ธนทรัพย์ ซึ่งเป็น 1 ใน 2 รายที่ประมูลข้าวได้ ระบุว่าจะนำข้าวที่ประมูลได้ไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ปุ๋ยอินทรี หรือสารปรับปรุงดิน เพราะได้มีการทำวิจัยมาก่อนหน้านี้ และเชื่อว่าสามารถทำราคาได้ เนื่องจากราคาประมูลที่ได้ต่ำกว่าราคาที่บริษัทตั้งไว้ ส่วนเงื่อนไขการขนย้ายที่ระบุว่าต้องขนย้ายเฉพาะกลางวันนั้นไม่เป็นอุปสรรค โดยจะเพิ่มจำนวนรถบรรทุกเพื่อให้ขนย้ายแล้วเสร็จตามเงื่อนเวลาที่กำหนด

ขณะที่บริษัท สินไชยศรี ระบุว่า แม้ว่าราคาที่ประมูลได้ค่อนข้างสูงกว่าราคาวัตถุดิบที่เคยใช้ เช่น แกลบ ที่มีราคาอยู่ที่ กก.ละ 2-3 บาท ขณะที่ข้าวเสียอยู่ที่ กก.ละ 5.60 บาท แต่ก็ต้องทดลองใช้ผลิตเพื่อดูความคุ้มค่า

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) เห็นชอบผลการประมูลข้าวสารสต๊อกรัฐบาลเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม ครั้งที่ 1/2558 ซึ่งเป็นข้าวผิดไปจากมาตรฐานให้แก่ผู้เสนอราคาซื้อสูงสุดจำนวน 2 ราย โดยเป็นผู้ประกอบกิจการเกี่ยวกับการผลิตไฟฟ้าเพื่อการจำหน่าย และผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยอินทรีย์เคมี และผลิตสารปรับปรุงดินในราคาตันละ 5,020-5,420 บาท ใน 10 คลัง 7 จังหวัด ปริมาณรวม 3.74 หมื่นตัน มูลค่า 198 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น