นบข.รับมือข้าวเปลือกเจ้านาปีออกสู่ตลาด ขยายโครงการชดเชยดอกเบี้ย 3% ให้ผู้ประกอบการที่ซื้อข้าวเข้าเก็บสต๊อก วงเงิน 204 ล้านบาท พร้อมสั่งเดินหน้าผลิตข้าวคุณภาพดี ป้อนตลาด หวังดันราคาให้สูงขึ้น “อภิรดี” ถกเซอร์เวเยอร์ ยันระบายข้าวเสียโปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน วันที่ 21 ธ.ค. ว่าได้อนุมัติเงินจำนวน 204 ล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการชดเชยดอกเบี้ยในอัตรา 3% ให้ภาคเอกชนที่ซื้อข้าวเก็บสต๊อกไว้ 3-6 เดือน เพื่อเป็นมาตรการรับมือปริมาณข้าวเปลือกเจ้านาปีที่จะออกสู่ตลาดอีก 4.64 ล้านตันในช่วงเดือน ธ.ค.นี้เป็นต้นไป และช่วยดึงราคาข้าวไม่ให้ตกต่ำ
ทั้งนี้ โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการที่เก็บสต๊อกข้าว เดิมมีเป้าหมาย 3 ล้านตัน โดยล่าสุดมีผู้ประกอบการเก็บสต๊อกแล้ว 219 ราย ปริมาณ 2.298 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าข้าว 26,279 ล้านบาท และได้มีการขยายโครงการเพื่อรับมือกับปริมาณผลผลิตข้าวเปลือกเจ้าที่กำลังออกสู่ตลาด เป้าหมาย 1.6 ล้านตันข้าวเปลือก
ขณะเดียวกัน นบข.ยังได้เห็นชอบแผนการผลิตและทำตลาดข้าว โดยกระทรวงพาณิชย์ มหาดไทย และเกษตรและสหกรณ์ ร่วมมือกันช่วยให้ชาวนาผลิตข้าวที่มีคุณภาพดีขึ้น ซึ่งต้องผลักดันทั้งเรื่องเมล็ดพันธุ์ และปัจจัยเสริมอื่นๆ เช่น ข้าวสี ข้าวจีไอ ข้าวอินทรีย์ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางที่นายกรัฐมนตรีต้องการให้ผลิตข้าวคุณภาพดีที่ขายได้ราคาดีและมีผลตอบแทนกลับสู่เกษตรกรอย่างมีเสถียรภาพ โดยกระทรวงพาณิชย์จะเร่งทำแผนผลักดันการส่งออกข้าวคุณภาพดีต่อไป
นางอภิรดีกล่าวว่า กระทรวงฯ ได้หารือกับสมาคมผู้ประกอบธุรกิจตรวจสอบสินค้าเกษตรไทย (เซอร์เวเยอร์) โดยได้ชี้แจงหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติในการตรวจสอบคุณภาพข้าว โดยในการตรวจสอบก็มีตัวแทนจากเจ้าของคลังและโกดังสินค้า และเซอร์เวเยอร์มาร่วมตรวจสอบด้วย ถือว่าดำเนินการด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม ส่วนกรณีที่เซอร์เวเยอร์ขอให้มีการตรวจสอบคุณภาพข้าวใหม่นั้นเลยขั้นตอนนั้นมาแล้ว และขอยืนยันว่าข้าวเสื่อมคุณภาพที่นำออกมาระบายเป็นข้าวที่มีการตรวจสอบถูกต้อง แต่หากเซอร์เวเยอร์กังวลในเรื่องค่าเสียหายส่วนต่างที่ได้รับรองข้าวไว้ก็สามารถไปต่อสู้ได้ในขั้นตอนของศาล
“ในการระบายข้าวเสื่อมคุณภาพ กระทรวงฯ ได้มีการตรวจสอบคุณภาพข้าวมาเป็นอย่างดีแล้ว ทุกขั้นตอนตรวจสอบได้ มีความโปร่งใส ข้าวที่นำมาระบาย เป็นการระบายข้าวตามสภาพ และในการระบาย ไม่ทิ้งความรอบคอบและเป็นธรรม ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ เพราะสต๊อกที่มี จะเป็นการกดดันราคาข้าวในตลาด” นางอภิรดีกล่าว
พล.ต.ต.ไกรบุญ ทรวดทรง ประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) กล่าวว่า กำลังหารือกับผู้ประกอบการที่ชนะการประมูลข้าวเสีย 3.74 หมื่นตัน เข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมก่อนที่จะมีการเซ็นสัญญากัน และเมื่อเซ็นสัญญาแล้วก็จะลงพื้นที่ร่วมกับกรมวิชาการเกษตร และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เพื่อไปดูว่ามีการนำข้าวไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตปุ๋ยและไฟฟ้าอย่างไร ส่วนในการขนย้ายข้าว ได้ทำระบบตรวจสอบ ส่งรูปรถผ่านไลน์ เมื่อไปถึงจุดเช็กก็ต้องตรวจสอบว่าเป็นรถคันเดียวกันหรือไม่ และเมื่อไปถึงโรงงานแล้วก็จะมีการตรวจสอบซ้ำอีกครั้ง โดยมีวอร์รูมอยู่ที่ อคส.ในการติดตามตลอดเวลา