รมว.พาณิชย์ แจงรัฐบาลมีขั้นตอนระบายข้าวรอบคอบ ไม่ให้เข้ามาหมุนเวียนในตลาดอีก ส่วนสต๊อกข้าวขณะนี้มี 18.7 ล้านตัน ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน 12 ล้านตัน ต่ำมาตรฐาน 6 ล้าน ขาดบัญชี 4 แสน รอตรวจอีก 3 แสน เร่งหน่วยงานเกี่ยวข้องเอาผิดเซอร์เวเยอร์ชดใช้ค่าเสียหาย ข้าวต่ำกว่ามาตรฐาน และข้าวที่ขาดบัญชี ยันไม่ใช้ ม.44 กลั่นแกล้งใคร
การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้ (6 พ.ย.) ได้มีกระทู้ถามโดยนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิก สนช. ถามนายกรัฐมนตรีเรื่องมาตรการในการจัดการเกี่ยวกับการเก็บสินค้าข้าวจากโครงการรับจำนำข้าว โดยมีนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เป็นผู้ชี้แจงแทน
นางอภิรดีชี้แจงว่า การระบายข้าวจากโครงการรับจำนำข้าวนั้นรัฐบาลมีขั้นตอนการดำเนินการอย่างรอบคอบ ซึ่งข้าวที่มีอยู่ในสต็อก 18.7 ล้านตัน แบ่งประเภทเป็นข้าวที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน 12 ล้านตัน, ต่ำกว่ามาตรฐาน 6 ล้านตัน, ข้าวขาดบัญชี 4 แสนตัน และข้าวที่รอตรวจ 3 แสนตัน โดยขณะนี้ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเอาผิดเซอร์เวเยอร์เพื่อชดใช้ค่าเสียหายกรณีข้าวต่ำกว่ามาตรฐาน และข้าวที่ขาดบัญชี
นางอภิรดีกล่าวว่า จากข้าวในสต๊อกที่มีนั้นนับตั้งแต่ที่ คสช.เข้ามาบริหารประเทศได้ระบายข้าวในกลุ่มที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานออกไปแล้ว 5 ล้านตัน ทำให้จำนวนข้าวคงเหลือในขณะนี้ 13.7 ล้านตัน สำหรับวิธีการระบายข้าวก็จะมีการตรวจสอบเป็นขั้นตอน เปิดประมูลแก่นิติบุคคลเพื่อนำไปใช้ประโยชน์จริง เพื่อไม่ให้ข้าวเหล่านี้กลับมาหมุนเวียนในตลาดอีก โดยการระบายข้าวจะมีการชะลออย่างในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อไม่ให้กระทบต่อตลาดข้าวใหม่ที่จะออกมา รวมถึงช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคมก็จะมีการชะลอไว้ก่อนเช่นกัน
รมว.พาณิชย์ยืนยันว่าจะเร่งทำงานระบายข้าวอย่างเต็มที่ เพราะรัฐบาลต้องเสียงบประมาณเฉลี่ยเดือนละ 1,000 ล้านบาท ในการดูแลรักษาข้าวเหล่านี้ ส่วนการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ก็เพื่อให้ความมั่นใจแก่คณะทำงานตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าวไม่ให้ถูกดำเนินคดี และยืนยันว่าการใช้อำนาจนี้ไม่มีผลกระทบหรือเป็นการกลั่นแกล้งผู้ถูกกล่าวหา
