ASTVผู้จัดการรายวัน – สมาคมผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนอ้อนกกพ. อุ้มSPPที่หมดสัญญาซื้อขายไฟ โดยชงเงื่อนไขสร้างโรงไฟฟ้าใหม่แต่ขายไฟไม่เกิน 45เมกะวัตต์/โรง ที่ราคาต้นทุน 3.30บาท /หน่วย คาดชัดเจนสิ้นปีนี้หรือต้นปี 59 “โกลว์ พลังงาน”สนใจเข้าร่วมโครงการโซลาร์ฟาร์มหน่วยงานราชการและสหกรณ์การเกษตร
นายณรงค์ชัย วิสูตรชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่-รัฐสัมพันธ์และประชาสัมพันธ์ บริษัท โกลว์พลังงาน จำกัด (มหาชน)(GLOW) ในฐานะนายกสมาคมผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน เปิดเผยว่า ทางสมาคมฯได้มีการเจรจากับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)และสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาของกลุ่มผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าเอกชนขนาดเล็ก (SPP) ที่จะทยอยสิ้นสุดอายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับภาครัฐในปี 2560-68 จำนวน 25 สัญญา โดยเบื้องต้นทางสมาคมฯได้เสนอขายไฟตามราคาต้นทุนที่แท้จริงเฉลี่ยอยู่ที่ 3.30 บาท/หน่วย ซึ่งต่ำกว่าราคาค่าไฟในการประมูลSPPรอบที่ 3 และเสนอขายไฟไม่เกิน 45เมกะวัตต์/โรงหรือคิดเป็น40%ของกำลังการผลิตไฟฟ้า อายุสัญญาซื้อขายไฟ 25ปี คาดว่าจะมีความชัดเจนในสิ้นปีนี้หรือต้นปี 2559
สำหรับโรงไฟฟ้าSPP ที่จะหมดอายุสัญญาในปี 2560-2561 นั้น จะขอให้รัฐมีการต่ออายุสัญญาซื้อขายไฟออกไปอีก 5 ปี ระหว่างนั้นภาคเอกชนจะลงทุนปรับปรุงโรงไฟฟ้าเดิม และสร้างโรงไฟฟ้าSPPใหม่ในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อจ่ายไฟเข้าระบบเดิมตามข้อเสนอข้างต้น ทั้งนี้เพื่อไม่ให้กระทบกับผู้ใช้ไฟฟ้าและไอน้ำในนิคมอุตสาหกรรม
โดยยอมรับว่ามติของกพช. เดิมที่ระบุให้ SPP ที่จะทำสัญญาใหม่ ซึ่งจะรับซื้อไฟฟ้าในปริมาณไม่เกิน 20% ของกำลังการผลิตติดตั้งเดิม และราคาค่าไฟเทียบเท่าโรงไฟฟ้าเอกชนอิสระ (ไอพีพี) และอีกส่วนเป็นกลุ่ม SPP ที่จะหมดอายุสัญญาในปี 2560-61 จะได้รับการต่ออายุอีก 3-5 ปีในปริมาณรับซื้อที่น้อยที่สุดนั้น คงทำได้ยาก เนื่องจากต้นทุนการผลิตไฟของโรงไฟฟ้าSPP จะสูงกว่าโรงไฟฟ้าIPPอยู่แล้ว ส่วนปริมาณการรับซื้อที่ระดับ 20%ของกำลังการผลิตเดิมนั้นถือว่าน้อยเกินไป จึงได้เสนอเงื่อนไขเป็นไม่เกิน 45เมกะวัตต์ ซึ่งภาคเอกชนก็ต้องหาไปลูกค้าเพื่อรับซื้อไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวคงต้องมีการหารือเพิ่มเติมกับทางกกพ.เพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน โดยยอมรับว่าช่วงนี้ทางกกพ.ให้ความสำคัญโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์การเกษตรขนาดติดตั้งไม่เกิน 5 เมกะวัตต์ต่อแห่ง รวม 800 เมกะวัตต์ โดยจะรับซื้อระยะแรก 600เมกะวัตต์ในวันที่1-10 พ.ย.2558
ในส่วนของโกลว์พลังงานก็มีความสนใจที่จะเข้าร่วมในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์การเกษตรขนาดติดตั้งไม่เกิน 5 เมกะวัตต์ต่อแห่งครั้งนี้ โดยได้มีการเจรจากับหลายสหกรณ์การเกษตรในพื้นที่ที่จะรับซื้อ โดยยอมรับว่ามีข้อจำกัดในหลายเรื่องทั้งความสามารถรองรับของสายส่งและผังเมืองในบางจังหวัดที่เป็นพื้นที่สีเขียว รวมทั้งมีผู้ที่ให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการนี้ค่อนข้างมาก จึงเร็วเกินไปที่บริษัทฯจะคาดว่าได้กี่เมกะวัตต์
สำหรับโรงไฟฟ้า SPP ที่จะหมดอายุในช่วงปี 2560-61 มีทั้งสิ้น 4 ราย โดยในส่วนนี้เป็นโรงไฟฟ้าของโกลว์พลังงาน จำนวน 2 โรง โดยมีกำลังการผลิตรวม 281 เมกะวัตต์ โดยในส่วนนี้เป็นปริมาณขายไฟฟ้าให้กับ กฟผ.180 เมกะวัตต์ ซึ่งจะหมดสัญญาซื่อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)ในปี 2560
นายณรงค์ชัย วิสูตรชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่-รัฐสัมพันธ์และประชาสัมพันธ์ บริษัท โกลว์พลังงาน จำกัด (มหาชน)(GLOW) ในฐานะนายกสมาคมผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน เปิดเผยว่า ทางสมาคมฯได้มีการเจรจากับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)และสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาของกลุ่มผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าเอกชนขนาดเล็ก (SPP) ที่จะทยอยสิ้นสุดอายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับภาครัฐในปี 2560-68 จำนวน 25 สัญญา โดยเบื้องต้นทางสมาคมฯได้เสนอขายไฟตามราคาต้นทุนที่แท้จริงเฉลี่ยอยู่ที่ 3.30 บาท/หน่วย ซึ่งต่ำกว่าราคาค่าไฟในการประมูลSPPรอบที่ 3 และเสนอขายไฟไม่เกิน 45เมกะวัตต์/โรงหรือคิดเป็น40%ของกำลังการผลิตไฟฟ้า อายุสัญญาซื้อขายไฟ 25ปี คาดว่าจะมีความชัดเจนในสิ้นปีนี้หรือต้นปี 2559
สำหรับโรงไฟฟ้าSPP ที่จะหมดอายุสัญญาในปี 2560-2561 นั้น จะขอให้รัฐมีการต่ออายุสัญญาซื้อขายไฟออกไปอีก 5 ปี ระหว่างนั้นภาคเอกชนจะลงทุนปรับปรุงโรงไฟฟ้าเดิม และสร้างโรงไฟฟ้าSPPใหม่ในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อจ่ายไฟเข้าระบบเดิมตามข้อเสนอข้างต้น ทั้งนี้เพื่อไม่ให้กระทบกับผู้ใช้ไฟฟ้าและไอน้ำในนิคมอุตสาหกรรม
โดยยอมรับว่ามติของกพช. เดิมที่ระบุให้ SPP ที่จะทำสัญญาใหม่ ซึ่งจะรับซื้อไฟฟ้าในปริมาณไม่เกิน 20% ของกำลังการผลิตติดตั้งเดิม และราคาค่าไฟเทียบเท่าโรงไฟฟ้าเอกชนอิสระ (ไอพีพี) และอีกส่วนเป็นกลุ่ม SPP ที่จะหมดอายุสัญญาในปี 2560-61 จะได้รับการต่ออายุอีก 3-5 ปีในปริมาณรับซื้อที่น้อยที่สุดนั้น คงทำได้ยาก เนื่องจากต้นทุนการผลิตไฟของโรงไฟฟ้าSPP จะสูงกว่าโรงไฟฟ้าIPPอยู่แล้ว ส่วนปริมาณการรับซื้อที่ระดับ 20%ของกำลังการผลิตเดิมนั้นถือว่าน้อยเกินไป จึงได้เสนอเงื่อนไขเป็นไม่เกิน 45เมกะวัตต์ ซึ่งภาคเอกชนก็ต้องหาไปลูกค้าเพื่อรับซื้อไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวคงต้องมีการหารือเพิ่มเติมกับทางกกพ.เพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน โดยยอมรับว่าช่วงนี้ทางกกพ.ให้ความสำคัญโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์การเกษตรขนาดติดตั้งไม่เกิน 5 เมกะวัตต์ต่อแห่ง รวม 800 เมกะวัตต์ โดยจะรับซื้อระยะแรก 600เมกะวัตต์ในวันที่1-10 พ.ย.2558
ในส่วนของโกลว์พลังงานก็มีความสนใจที่จะเข้าร่วมในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์การเกษตรขนาดติดตั้งไม่เกิน 5 เมกะวัตต์ต่อแห่งครั้งนี้ โดยได้มีการเจรจากับหลายสหกรณ์การเกษตรในพื้นที่ที่จะรับซื้อ โดยยอมรับว่ามีข้อจำกัดในหลายเรื่องทั้งความสามารถรองรับของสายส่งและผังเมืองในบางจังหวัดที่เป็นพื้นที่สีเขียว รวมทั้งมีผู้ที่ให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการนี้ค่อนข้างมาก จึงเร็วเกินไปที่บริษัทฯจะคาดว่าได้กี่เมกะวัตต์
สำหรับโรงไฟฟ้า SPP ที่จะหมดอายุในช่วงปี 2560-61 มีทั้งสิ้น 4 ราย โดยในส่วนนี้เป็นโรงไฟฟ้าของโกลว์พลังงาน จำนวน 2 โรง โดยมีกำลังการผลิตรวม 281 เมกะวัตต์ โดยในส่วนนี้เป็นปริมาณขายไฟฟ้าให้กับ กฟผ.180 เมกะวัตต์ ซึ่งจะหมดสัญญาซื่อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)ในปี 2560
