“อนันตพร” หารือร่วมคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ นำโดย ดร.คุรุจิต นาครทรรพ ใน 3 ประเด็นปฏิรูปพลังงาน ได้แก่ การปฏิรูปการอนุรักษ์พลังงานในระบบ ESCO และ BEC การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลกลางด้านพลังงาน และการสนับสนุนให้มีการแข่งขันในกิจการพลังงานอย่างเสรี ลดการผูกขาด และมีอำนาจเหนือตลาด
พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการเข้าพบของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) นำโดย ดร.คุรุจิต นาครทรรพ ประธานกรรมาธิการ ว่า ได้หารือ วาระการปฏิรูประบบพลังงานในด้านต่างๆ ได้แก่ ด้านไฟฟ้า น้ำมัน พลังงานทดแทน การอนุรักษ์พลังงาน และโครงสร้างพลังงาน ตามข้อเสนอแนะจากสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 โดยมีการหารือร่วมกันในประเด็นหลัก 3 เรื่อง ประกอบด้วย
1. การปฏิรูปการอนุรักษ์พลังงานในอาคารภาครัฐและเอกชนในระบบ ESCO และ BEC โดยส่งเสริมให้นำระบบ ESCO หรือโครงการส่งเสริมและพัฒนาการอนุรักษ์พลังงานโดยกลไกบริษัทจัดการพลังงานมาใช้ในภาคราชการ ซึ่งขณะนี้กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างการหารือกับสำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ความเหมาะสมให้สามารถนำระบบดังกล่าวมาใช้กับภาคราชการได้ ส่วนเรื่องมาตรฐานการอนุรักษ์พลังงานในอาคาร (Building Energy Code : BEC) ทางกระทรวงพลังงานจะดำเนินการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย เพื่อเดินหน้านำระบบ BEC มาใช้กับอาคารต่างๆ ที่มีขนาด 10,000 ตร.ม.ขึ้นไป โดยจะเริ่มดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมในปี 2559
2. การพัฒนาศูนย์ข้อมูลกลางด้านพลังงาน (NEIA) โดยกำหนดให้มีการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลกลางด้านพลังงานออกมาเป็นหน่วยงานเฉพาะ และมีกฎหมายรองรับ ซึ่งความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวทางกระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างการดำเนินการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลกลางด้านพลังงานตามมาตรฐานข้อมูลสากล และได้รับการรับรองจาก IEA และ
3. การสนับสนุนให้มีการแข่งขันในกิจการพลังงานอย่างเสรี ลดการผูกขาด และมีอำนาจเหนือตลาด ขณะนี้กระทรวงพลังงานได้เริ่มดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว โดยอยู่ระหว่างการยกเลิกสิทธิพิเศษของ ปตท.ในการจัดจำหน่ายน้ำมัน และการจัดทำ TPA สำหรับท่อก๊าซธรรมชาติ เพื่อเปิดโอกาสให้บุคคลที่สามสามารถเข้ามาใช้ หรือเชื่อมต่อระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติและสถานีแอลเอ็นจีได้อย่างมีประสิทธิภาพ